23 ธ.ค. 2552

ชาวเล ท้องฟ้าและจินตนาการ

แสงสว่างสาดส่อง สว่างไสว ร้อนผ่านไปทั่วทั้งร่างกาย หมู่แมกไม้ มากมาย แห้งตาย
ท่ามกลางแสงแดดที่ร้อนจัด ยามฝน ฝนตก ยามเย็น กลางวัน กลางคืนก้อแสน

จะหนาวเหน็บ เหม่อมองท้องฟ้า แลเห็นนกน้อย โผบินแต่ย่ำรุ่ง หมู่ฝูงนกกาบิน
ระหกระเหิน มุ่งหน้าไปอย่างไรจุดหมาย เมื่อยังไม่เจอจุดหมาย ต้องมุ่งหน้า ต่อไป
จนกว่าจะเจอฝั่งเจอจุดหมาย จุดเริ่มต้น เติมพลังให้ชีวิต
รีบลุกขึ้น ตื่นจากที่นอนในยามเช้า เปิดประตู ก้าวเดินออกไปนอกบ้าน ยืนสงบนิ่ง หลับตา

สูดกลิ่นหอมจาก แมกไม้ นานาพันธุ์ กำลังโปรยกลิ่นหอม รอรับแสงอรุณรุ่งในยามเช้า
เหม่อมอง แลเห็นดวงอาทิตย์ ต้อนรับวันใหม่ในยามเช้า สีสัน สดสวย กระทบกับท้องฟ้า
และน้ำทะเลสีคราม

เดินออกไปนอกบ้าน มุ่งหน้าไปยังสะพาน ที่ทอดตัวไปท่ามกลาง ทะเลที่ซัดสาดเข้าหาฝั่ง
อย่างไม่มีวันหยุด ถึงจุดหมายปลายสะพาน แลเห็นดวงอาทิตย์ ที่ขึ้นในยามเข้า อาทิตย์อัสดง
อาทิตย์ในยามเช้าย่ำรุ่ง

ครู่ใหญ่.. แสงแดดเริ่มสาดส่อง แมกไม้ ชูกิ่งก้าน บานสะพรั่ง รอรับแสงแดดในตอนเช้า สัตว์น้อยใหญ่
ออกหากิน ผู้คน ทำงาน หาเงิน ดำเนินชีวิต ต่อไปในวันใหม่ สะพานที่ซัดทอด คู่ขนานกัน ฝั่งหนึ่ง
ซึ่งอยู่ท่ามกลางแมกไม้ และหมู่บ้าน อีกฝั่งอยู่ท่ามกลางแมกไม้ มะพร้าว ชูใบ กิ่งก้าน และลำต้น
คดเคี้ยวไปคนละทาง เทียบกับผู้คนต่างชีวิต ต่างจิตใจ ยากนักจะหยั่งรู้ ถึงจิตใจข้างใน

แสงแดดเริ่มร้อน เดินเข้าหาฝั่ง ถึงตีนสะพาน มุ่งหน้าไปยังบ้าน ที่ทอดเสาไปยังท่าน้ำ
เสียงเรือกำลังติดเครื่องถึงเวลา หาปู หาปลา หาเงินมาประคองชีวิต ให้ยืนอยู่ เก็บหอมรอมริบ
รีบขึ้นเรือ เรือเริ่มออกห่าง ไกลฝั่ง ไปเรื่อยๆ โลกนี้แสน กว้างไกล ท้องฟ้าแสนจะกว้างใหญ่
เรือไกลฝั่งออกไป ออกไป จนมองไม่เห็นฝั่ง

ลับตา เหมือนดังกับชีวิต ที่ต้องดำเนิน เดินต่อไปหยุดเดินคือหยุดลมหายใจ เหมือนกับเรือ
ที่สิ้นเสียง ถุกทิ้งร้าง อย่างไม่มีวันกลับคืน........

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น