26 ธ.ค. 2552

เก็บความฝันมาเขียนลงกระดาษ(2)



ความฝันอีกเรื่องนึง ผมว่าน่าจะเป็นฝันเรื่องเดียวกันหรือเปล่าก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่มัน
เนื้อเรื่องมันใกล้เคียงกัน นี่ฝันคืนเดียวกัน วันเดียวกัน แต่ฝันเหมือนสองเหตุการณ์ 
หรือเปล่าก็ไม่แน่ใจ มันเป็นเรื่องเกี่ยวกับน้ำท่วมโลก

เก็บความฝันมาเขียนลงกระดาษ(1)


ฝัน ความไฝ่ฝัน ความฝัน สองคำนี้เหมือนกันหรือเปล่า ฝันว่าอยากจะทำโน่นทำนี่
กับความฝัน ที่นอนหลับแล้วก็ฝัน ฝันโน่นฝันนี่ เหมือนกัน แต่คิดว่ามันคงละอย่าง
กัน ยินดีกับหลายคนได้เดินไปตามความฝันของตัวเองตั้งแต่เยาว์วัย และยินดีกับหลาย
คนที่เดินไปหาฝันได้สำเร็จ

24 ธ.ค. 2552

พี่ชายที่แสนดี


กาลครั้งนึง นานมาแล้ว ไม่ได้นานเท่าใหร่เนอะ มีเด็กน้อยอยู่ 2คน น้องสาว คือต๋อมแต๋ม
กับพี่ชาย คือมุด กำลังเก็บดอกไม้เอะดอกอะไรนะ ดอกกุหลาบสีขาว ที่ปลุกไว้ อยู่ในสวน
หลังบ้าน บ้านไม้สีขาว บ้านหลังนี้มีชื่อว่า บ้านกุหลาบขาวต๋อมแต๋ม กำลังเก็บดอกกุหลาบ
ใส่กระเช้าสีขาว ได้ไปหลายดอกแล้ว จะนำไปใส่ในแจกกัน

อย่าฆ่าฉันเลย ฉันยังไม่อยากตาย



โต้งเด็กหนุ่มวัย 18 เศษๆ ไปเดินเล่นแถวๆบ้านซึ่งติดกับโรงฆ่าสัตว์แห่งหนึ่ง
โต้งได้ยินเสียงร้องอันโหยหวน ซึ่งไม่เคยได้ยินมาก่อนนนน เสียงอันโหยหวน เสียง
ร้องบ่งบอกถึงความทรมานแสนสาหัส

Nick vujicic ไม่มีแขน ไม่มีขา ไม่มีห่วง




หลายคนอาจจะท้อแท้กับชีวิต ตอนนี้อาจจะกำลังยังท้อแท้อยู่ สิ้นหวัง.......
มีหลายเรื่องใช่ใหม ชีวิตต้องเดินหน้าต่อไป เก็บความผิดหวัง ท้อแท้ สิ้นหวัง
ทิ้งไว้ก่อน แล้วลงมือทำ เริ่มต้นใหม่

โลกนี้ไม่เหมาะสำหรับคนอ่อนแอ



เคยมีคนบอกโลกนี้ไม่เหมาะสำหรับคนอ่อนแอ ทุกสิ่งทุกอย่างในโลกนี้ไม่ใช่
สิ่งที่น่ากลัว ความกลัวมันอยู่ทีใจ ดูละครดูดีๆ ดูละคร ย้อนดูตัว ทุกคนมีจุดเด่น
ทุกคนมีจุดด้อย มากน้อยไม่เหมือนกัน ปัญหาคนทุกคนมี ทางที่ดีต้องรู้จัก
ยอมรับปัญหาของตัวเองต่อสู้กับปัญหา ไม่ใช่การเดินหนีปัญหา

23 ธ.ค. 2552

สู้กับมันซักหน่อยจะดีใหม



เขียนลงกระดาษ เวลา : ประมาณ 00.14 น. เพิ่งกลับจากเข้าเวร เหตุการทางใต้
เห็นลงสื่อกันบ่อยกันเหลือเกิน แต่ที่ไปเข้าเวร ก็แค่ในหมู่บ้าน แล้วเราก็อยู่สงขลา
มันก็ไม่ค่อยจะมีปัญหาอะไรซักเท่าไหร่ ข่าวเหตุการณ์ความไม่สงบทางภาคใต้
มีออกมาแทบจะทุกวัน ไม่รู้ว่าเมื่อใหร่มันจะจบซะที ที่เข้าเวร ก็ช่วยดูแลหมู่
บ้านซะหน่อย เป็น ผช.ผญบ .. ตำแหน่งเล็กๆ

เงิน เงิน เงิน แล้วก็เงิน


คุณเคยคิดบ้างใหมว่าถ้าวันนึง คุณเกิดมีเงินเยอะๆ คุณได้มรดก ตกทอดจาก
ปู่ย่า ตายาย พ่อแม่ หรือจากใครก็แล้วแต่ ที่ไม่ได้ผิดกฏหมาย คือได้มาแบบ
สุจริต ที่ไม่ได้มาโดยมิชอบ ถ้าเกิดได้มาจริงๆ คิดเคยคิดบ้างใหม จะจัดการกับ
เงินที่ได้มานั้นอย่างไรดี จะทำยังงัยกับมัน คำถามนี้คงตอบไม่ยากสำหรับ

อดีต....วันวาน.... ชีวิตใหม่



บางครั้งอดีต เราก็ควรปล่อยให้มันเป็นอดีตไป คนเราต้องเดินไปข้างหน้า
มองไปข้างหน้า อย่ามาหมกมุ่น จมอยู่กับอดีต ไม่ต้องไปคิดถึงมัน อย่าไปคิด
ให้มันปวดหัว ชีวิตคนเราต้องเดินไปข้างหน้า จะคืบ จะคลาน ก็ไม่เห็นเป็นไร
อดีตทิ้งมันไป เก็บไว้เฉพาะสิ่งที่ดีๆ มองไปอนาคต

ค่าของคนมันอยู่ที่ตรงไหน (เขียนสดไม่ได้กรั่นกรอง ไม่ถูกใจโปรดอย่าว่ากันนะท่าน)

...16 หย่อนๆ 17 ยุกยิก 20 ยุ่งเหยิง 25 ยังสวย 30ยังน่ารัก 40 ยังดูดี 50 ยังสวยนะ คนเราควรสวยออกจากข้างในเนอะ หน้าตาไม่สำคัญให้สวยที่จิตใจเป็นสำคัญ
เราไม่ควรดูถูกคน เราจะมองคนจากภายนอกไม่ได้ ใครจะรู้คนที่คุณเดิน
ชนอยู่ทุกวัน แต่ตัวซอมซ่อ เสื้อผ้าขาดๆ อาจจะเป็นเศรษฐีก้อได้ใครจะไปรู้

เล่าให้ฟัง

เขียนจากชั้นสองของบ้าน วันนี้อากาศดีมาก มีหมอกจางๆอากาศดีๆ นั่งฟังเพลงเบาๆ
มองออกไปนอกหน้าต่างเพราะหันหน้าให้ต่างคอมตั้งอยุ่ตรงหน้าต่าง มีต้นไม้ใบหญ้า
รายรอบ มีเสียงนกร้อง จิ๊บๆ ไม่รู้เหมือนกันว่ามันนกอะไร ชนบท ต่างจังหวัด ไม่ว่าจะที่ใหน
แต่ทางใต้ เสียงไก่ขัน เสียงนก สายลม ต้นไม้ใบหญ้า บรรยากาศที่แสนสบาย
ที่อื่นก้อคงเป็นแบบนี้เช่นเดียวกันใช่ใหม

ปริญญา.....ชีวิต .......

ผมมีเรื่องเล่า เรืองนึงเกี่ยวผู้หญิง ผุ้ไม่เคยยอมแพ้กับชะตาชีวิต ของตัวเองง
ตอนที่ผมไปอบรม น่าจะก่อนวันสุดท้าย ของการอบรมนะถ้าจำไม่ผิด
พี่ผู้หญิงคนนี้ชื่อว่าดวงดาว ย้อนไปก่อนหน้านั้น ตอนที่พี่ดวงดาว กำลังเรียนอยู่
ปี 4 เทอมสุดท้าย พี่เขาและเพื่อน ไปงานวันเกิด

วันหยุด วันพักผ่อน ให้รางวัลกับตัวเอง

บางทีคนเรา อยู่กับตัวเองทุกๆวัน มันก้อแสนจะเบื่อเหมือนกัน คุณว่าใหม
มีวันหยุด2 - 3 วัน ก็แวะไปหาเพื่อน ไปเที่ยวบ้านเพื่อน ชวนเพื่อนไป
เที่ยวซะบ้างก็คงดีใช่ใหม เราเป็นคนใต้ สงขลาที่สงขลา อำเภอที่ผมอาศัยอยู่
ตลอดทางมา จะเห็นทะเลมาตลอด ถ้าขับรถมาก็จะเห็นไปตลอดทางเป็นทาง

สิ่งที่คุณคิดกับสิ่งที่เขาเป็น มันอาจจะเป็นคนละเรื่องกัน

วันนี้ ขอเม้นแต่หัววันหน่อย วันนี้ ประมาณ 1 หรืออาจจะสองทุ่ม เพื่อนมัน ชวน
ไปงานลอยกระทง อย่างที่บอกเขาจัดงานก่อนวันลอยกระทงไม่รู้กี่วัน ขี้เกียจ
นับ งานลอยกระทงจริงก้อวัน ที่สองโน่น แล้วนี่ 25 ก้อเริ่มงานแล้ว แล้ววันที่
สองนี้ ก้อคงคนมางานกันตรึม คงได้อีกบรรยากาศนึง คุณละไปลอยกระทงกับใคร

ส่วนเรานี่ยังลอยกระทงหลงทางอยู่เลย แต่ละปีเราไม่เคยไปลอยกับเขาเลย
เราไม่ค่อยให้ความสำคัญเท่าใหร่ อิสลามไม่มีประเพณีแบบนี้ แต่ถ้าคุณมี
แฟนก้อคงไปลอยกระทงกับแฟน ก้อคงมีความสุขดีเหมือนกัน ไม่มีก้อไปกัน
เป็นครอบครัวพ่อแม่พี่น้องก้อได้อีกอารมณ์นึง 1 ครอบครัว ก้อ 1 กระทง

คงไม่จำเป็นต้องลอยเป็นคู่เสมอไป ใช่มะ รู้ใหม บางทีคุณอาจจะชอบคนๆ
นึง แล้วเขาอาจจะชอบคุณเช่นเดียวกัน แต่คุณรู้ใหม บางทีคุณอาจจะไม่ได้คิด
ว่าผู้ชาย ไม่รู้ส่วนใหญ่ใหมไม่รู้ คิดถึงเรื่องความเหมาะสมเสมอ หากว่าเธอเป็น
เครื่องบิน ไอ้แมวอย่างเขาก้อคงได้แต่มองเครื่องบินบินผ่านไป

เหมือนดอกฟ้ากับแมวมัสญิด เราไม่เข้าวัด ไม่ชอบหมา โทษด้วย เหมือน
แมวกับปลากระป๋อง มันก้อได้แต่มอง ถึงแม้เครื่องบินบินลงมาจอด มัน
ก้อคงได้แต่มองอยู่ที่รั้วสนามบิน ทั้งๆที่มันอยากเขาไปใกล้เครืองบินเต็มที
เครื่องบินอาจจะคิดว่าแมวตัวนั้น ไม่สนใจเครื่องบิน

ก้อแค่แมว ตัวนึง แมวธรรมดาตัวนึง เครื่องบินก้อคงไม่ต้องมาสนใจ
แมวตัวนั้นหรอกใช่ใหม เครื่องบินก้อเหมาะกับเครื่องบินด้วยกัน บินไปไม่ต้อง
หันไปมองแมวตัวนั้นหรอก คงไม่ต้องมาให้ความหวังแมวตัวนั้น มันคงเป็นไป
ได้ยากที่แมวตัวนึงกับเครื่องบินลำนั้น จะมาเดินบนเส้นทางเดียวกัน

อาจจะด้วยเส้นทางที่เดินมันช่างแตกต่างกันเหลือเกิน ถึงแมวตัวนั้นอาจจะเศร้า
อยากอยู่ใกล้เครื่องบินเต็มที แต่ก้อคงต้องปล่อยให้เครื่องบินบินไปสู่เส้นทางดีกว่า
ไม่ควรฉุดรั้งลงมาเดินบนเส้นทางเดียวแมวตัวนั้น ใช่ใหม ถึงวันนึงแมวตัวนั้นก้อ
คงจะต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยวก้อคงไม่เป็นไร

รู้ใหม บางสิ่ง ที่คุณคิดกับบางสิ่งที่เขาคิด ถึงจะเป็นเรื่องเดียวกัน แต่บางครั้งสิ่ง
ที่คุณคิดกับที่เขาคิดมันอาจจะคนละความหมายกัน ทั้งๆที่มันก้อเป็นเรื่อง
เดียวกัน เคยคิดไปเองใหมล่ะ บางสิ่งบางเรื่อง บางอย่างคนเราก้อมีเหตุผล
ของตัวเอง แล้วถ้าหากคุณฝืนให้เขาทำในสิ่งที่เขาไม่อยากทำ

เมื่อเขาทำตามที่คุณต้องการ คุณอยากให้เขาเป็นในสิ่งที่ไม่ใช่ตัวเขา
แล้ววันนึงคุณอาจจะผิดหวังกับสิ่งที่คุณให้เขาเป็นก้อได้ แล้วถ้าคุณไม่ได้ชอบ
ใคร ก้ออย่าไปให้ความหวังใคร อย่าไปเอ่ยปากบอกเขาถ้าคุณไม่ได้จริงจัง
ควรจะปล่อยให้เขาเป็นแบบเดิมไปดีกว่า

เคยมีคนบอก ความเหมาะสม ถ้าพูดถึงเรื่องความเหมาะสม ถ้าคบกันที่ความ
เหมาะสม ถ้าอย่างงั้นมันก้อคงไม่มีใครเหมาะสมกับใคร คนจนแต่งคนรวย
คนรวยแต่งคนจน คนรวยกบคนรวย คนจนกับคนจน ความรักความชอบ
ไม่มีพรหมแดน ไม่มีอะไรมาขวางกั้น ทฤษฏี อาจจะใช่แบบนั้น

แต่ในความเป็นจริง มันมีอะไรหลายอย่าง ที่แตกต่างกัน คุณอาจจะไม่คิด แต่
เขาอาจจะคิด เรื่องแบบนี้อยู่ที่คนสองคน ใช่ใหม มันทำใจลำบากใหม ถ้าหาก
ความเป็นอยู่ หลายสิ่งหลายอย่างที่แตกต่างกันเกินไป กับคนสองคนมาคบ
มาอยู่ด้วยกัน ความลำบากคือสิ่งที่ผู้ชายไม่อยากให้เกิดขึ้นกับคนที่ตัวเองรัก

ผู้หญิงที่ตัวเองรัก ถึงแม้คุณอาจจะไม่สนใจ ทนได้กับความลำบาก ความแตก
ต่างที่จะเกิดขึ้นในวันข้างหน้า แต่เขาก้อคงทนให้คุณมาลำบากกับเขาไมได้
ไม่รู้สิคุณว่าไงล่ะ คิดแล้วมันเศร้าใหม ฉนั้นคงไม่ต้องคิดไรมาก ทุกคนมีเนื้อคู่
ของตัวเอง ถึงวันนั้นถ้าใช่ ถึงแยกจากกันนานแค่ใหน
ถ้าใช่เนื้อคู่กัน ก้อคงได้อยู่ด้วยกัน เพราะฉนั้นอย่าคิดมากเลยนะ



เขียนโดย นายขี้บ่น
วันที่ 29 ตุลาคม 2552
เวลา 16.44

ก่อนจะสายเกินไป

เคยใหม เคยอยากบอกอะไรกับใครบ้างใหม อยากบอกว่ารักพ่อรักแม่ คุณมีคนรักใหม
มี ไม่มี แอบรักใครแอบชอบใคร รู้หรือว่าไม่รู้ ว่าตัวเอง ..เฉยๆ ไม่รู้เหมือนกันแบบนี้ใหม
ได้ยินมานะว่า ถ้าหากว่าเรารัก ใคร ชอบใคร ก้อบอกเขาไปเลยอย่าปล่อยให้มัน
สายเกินไป บางทีคนเรา จะรู้คุณค่าของ สิ่งๆหนึ่งก้อต่อเมื่อสิ่งๆนั้นได้จากเราไปแล้ว
แล้วก้อต้องมานั่งเสียใจอยู่คนเดียว


มันคงไม่มีใครช่วยอะไรได้ใช่ใหม วันเวลามันคงไม่ย้อนกลับ บอกไปเถอะ ถึงแม้ว่ามัน
อาจจะต้องผิดหวังก้อขอให้ได้บอกไป ถึงแม้ว่า เขาไม่แยแส ไม่หันมามองเราก้อคง
ไม่เปนให้เขาไปเจอกับคนที่เขาไฝ่ฝัน คนที่เขาต้องการ มีคนรัก ก้อบอกรักเขา
มีคนที่ชอบก้อบอกไปว่าชอบเขา อย่าปล่อยให้มันสายเกินไปเลย บางทีอาจจะ
ไม่กล้าพูด แต่ขณะที่เขาอาจจะอยากได้ยินคำนั้นจากปากของคุณ

ชีวิตคนเรามันสั้น เราอาจจะไม่มีโอกาสได้บอก หรือยังงัยก้อไม่รู้ ชีวิตคนเราไม่แน่นอน
เหมือนคนข้างบ้าน เห็นๆกันอยู่ ประสบอุบัติเหตุ ยังไม่ฟื้น เลือดคั่งในสมองผ่าตัดสมอง
50/50 ไม่รู้ว่าจะอยู่จะไป ก้ออย่างที่บอก รู้สึกอะไรกับใคร อย่างไรบอกไปนะ
อย่าให้มันสายเกินไปเลยคิดถึงพ่อแม่ ไม่เคยกอดอาย กลับบ้านเข้าไปกอดซะหน่อย
อย่ารออยู่เลย คิดถึงใคร อยากบอก


อะไรกับใคร บอกดีใหม .... มันยากใหม ...(โอ้ย ยุงกัด บี้ซะแบน เลย โสน๊าาน่ามากัดดีนัก)
แต่บางทีระยะทาง ศาสนา ขนบธรรมเนียมประเพณี ความแตกต่าง อารมร์ การใช้ชีวิต
หน้าที่การงาน ที่แตกต่างกัน ก้อมีส่วนที่ต้องทำให้ ใครหลายคนต้องก้มหน้า
ยอมถอยยอมทำใจทั้งๆที่ มันอาจจะอยากทำในสิ่งทีใจต้องการก้อตามแต่มันก้อคง
ไม่เปนไรมั้ง เจ็บวันนี้ ดีกว่า

ไม่ไหวในวันหน้า เศร้าใหม เศร้าใช่ใหม เอาน่าาาา ไม่เป็นไร สมหวัง ผิดหวัง
เป็นเรื่องธรรมดาที่จะต้องเจอกันทุกคน ไม่เป็นไร วันนึงคุณอาจจะได้เจอกับคนที่เป็น
เนื้อคู่ของคุณจริงๆหรืออาจจะเป็นคนที่คุณกำลังชอบ กำลังคิดถึงอยู่ก้อได้ ใครจะไปรู้
แต่ถึงอย่างไรก้อคงต้องสู้ต้อไปถึงแม้ว่าไม่มี ใครรักเราก้อยังมีพ่อแม่ที่ยังรักเสมอ

*** ได้ข่าวมาว่าคนที่ประสบอุบัติเหตุ ตอนนี้อาการดีขึ้นแล้ว ขยับโน่นนี่พอได้แล้วครับ
ก็ขอให้หายวันหายคืนนะคับ.........

ชีวิต ความรัก ความสุข ความทุกข์ การสูญเสีย

ชีวิต ทุกคนก็ต้องรักชีวิตของตัวเอง ไม่มีใคร ไม่รักชีวิต แม้แต่สัตว์ มันก็ยังรักชีวิตของมัน.
ตั้งแต่เล็กจนโตมาได้ มันก็นาน หลายคนคิดสั้น กับปัญหาที่รุมเร้าเข้ามาในชีวิต บางคนก็.
จบชีวิตไปกับบางสิ่งบางอย่าง เรื่องเรียน เรื่องความรัก ปัญหาครอบครัว หลายๆอย่าง...
ทั้งๆที่ไม่สมควร จะแลกชีวิตกับมันเลย ทุกปัญหามีทางแก้

เคยมีนักศึกษาวิศวะ ที่เครียดจากการเรียน จนถึงขั้นเข้าโรงพยาบาล หลายต่อหลายครั้ง..
จนสุดท้ายต้องจบชีวิตตัวเองลงด้วยการ ผูกคอตาย
เรื่องของความรักที่ เคยมีครูสาว คิดฆ่าตัวตาย โดยปีนขึ้นไปบนเสาโทรศัพท์ แล้วจบ
ชีวิตของตัวเองลง ท่ามกลางเสียงหวีดร้อง ของคนที่มอง ที่มุงดูอยู่เบื้องล่าง
.
ปัญหาความแตกแยกของครอบครัว พ่อไปทาง แม่ไปทาง ใจเวิ้งว้างโดดเดียว ขาดที่พึ่ง..
ขาดคนเข้าใจ ไม่มีใครให้คำปรึกษา ชีวิตเริ่มมีปัญหา คบเพื่อนไม่ดี จากคนร่าเริง มาเป็นคน
ที่ไร้ความสุข ตัดสินชีวิตแบบผิดๆ

อย่ามองปัญหาให้เป็นทุกข์ อย่าคิดถึงปมด้อย ควรเปลี่ยนปมด้อยให้เป็นจุดเด่นจะดีกว่า...
วันหนึ่ง ย่อมเจอกับความมืด แต่เวลาผ่านไปก็จะเจอกับแสงสว่าง ปัญหาก็เหมือนกัน มี...
ทั้งด้านมืด และด้านสว่าง ชีวิตเมื่อเจอกับความมืด แต่ถ้าหากสามารถนำพาตัวเองออกจาก
ความมืดได้ ก็จะเจอกับแสงสว่าง ในหนทางข้างหน้า หลังฝนตก ฟ้าย่อมสดในเสมอ

ทุกคน ทุกๆชีวิต ในเมื่อมีความสุข ยังงัยวันนึงความทุกข์ก็ยังก้าวกรายเข้ามา ไม่มีใคร
ที่จะมีความสุขโดยที่ปราศจากความทุกข์ และไม่มีใครไม่มีความทุกข์ ในความทุกข์
ของทุกคนย่อมมีความสุข ปะปนอยู่ด้วยเสมอ เมฆหมอกบดบังหนทางที่กำลังจะไป
ถ้าหากฝ่าเมฆหมอกออกไป ก็จะเจอกับหนทางที่มีแต่แสงสว่าง ไปเจอสิ่งที่สวยงามกว่า

หลายคนมีปัญหาในชีวิต คงไม่มีใครที่ไม่มีปัญหา หลายคนชอบเก็บกด ชอบเก็บปัญหา.
ไว้กับตัว สะสม หนึ่งวัน สองวัน มาเป็นเดือน เป็นปี ไม่มีการระบาย ให้ใครฟัง ปลดปล่อย.
เล่าให้เพื่อน พี่ ครอบครัวฟังบ้าง อย่าเป็นคนเก็บกด อย่าเป็นคนชอบเก็บกด พูดอะไร
อยากพูดก็พูดออกมา อย่าปล่อยให้มันอึดอัดใจ คิดอะไร พูดไปอย่างนั้น
บางคนไม่อยากพูด บางคนไม่กล้าพูด

บางคนกลัวที่จะพูด กลัวจะพูดผิด กลัวโน่นกลัวนี่ กลัวไปหมด ไม่ต้องทำอะไรกันพอดี
กลัวสู้ อย่ากลัวหนี สั่นสู้ อย่าสั่นหนี อะไรทีเป็นครั้งแรกมันก้อ สั่น ประหม่า กลัวไปหมด.
เหมือนเด็กๆ คุณครูให้ออกไปพูดหน้าชั้นเรียน สั่นแทบแย่ แต่ถ้ามีครั้งแรก ครั้งที่สอง
ครั้งที่ 3 ครั้งต่อไปเรื่อย จากเคยพูดแล้วประหม่า กลัว มันก็กลายเป็นเรื่องที่เคยชิน
เป็นเรื่องปกติไปโดยปริยาย

ถึงแม้จะมีอะไรต่อมิอะไร หลายสิ่งหลายอย่าง ผ่านเข้ามาในชีวิต มีทุกข์ มีสุข ความอิจฉา
ริษยา ความยินดี พบปะ สังค์สรร แต่งงาน ทะเลาะ เบาะแว้ง ขัดแย้งกัน ล้วนแล้วแต่
ต้องผ่านเข้ามาในชีวิต บางอย่างอาจจะไม่มี ขึ้นอยู่กับตัวเราเอง

คงไม่มีปัญหาใดที่แก้ไม่ได้ ถ้าตั้งใจที่จะแก้มัน แต่ต้องแก้ด้วยสมอง แก้ด้วยสติ
เมื่อปัญหาคลี่คลาย ความสุข สมหวัง ยินดี ก้อจะตามมา สู้ต่อไปคับ

อดีต ปัจจุบัน กาลเวลา ความสุขที่แท้จริง

ทุกวันนี้ โลกมันเป็นอะไร มันเป็นยังงัย แล้วเมื่อก่อน โลกมันเป็นอย่างไร เป็นแบบใหน
คุณเคยคิดบ้างใหม ทุกวันนี้โลกมันดูวุ่นวาย สังคมวุ่นวาย บ้านเมืองวุ่นวาย การอพยพ
หนีภัย การสู้รบ การเข่นฆ่า ทิ้งระเบิด ถล่มเมืองเสียหายไปหมด ผู้คนบาดเจ็บ ล้มตาย
มากมายก่ายกอง แล้วสุดท้าย อะไรคือสิ่งที่ต้องการ

การสูญเสีย การจากไป ความเศร้าเสียใจ ไม่อาจบรรยาย เสียงร่ำร้องเสียงร่ำไห้
น้ำตาไหลพราก พ่อแม่พี่น้อง ที่จากไปกับ ความไม่ประสงค์ดีของคนบางกลุ่ม
ผู้คนมากมาย ข้าราชการ ครู หทาร ตำรวจ หมอ พยาบาล ประชาชน ผู้คนบริสุทธ์
ล้มตายไปยากที่จะลืมเลือน ยังคงค้างคาอยู่ในใจโดยมิอาจจะลืมเลือน

ทุกวันนี้โลกมันกลับกันหมดแล้วใช่ใหม หญิงอยากเป็นชาย ชายอยากเป็นหญิง
คนดีพูดไม่มีใครเชื่อ คนไม่ดีพูดกลับมีคนฟัง ความอิจฉาริษยา แก่งแย่งชิงดี ชิงดี
ชิงเด่น คนดีโดนทำร้าย โดนทำลาย คนไม่ดีโดนปกป้อง โลกมันร้อนขึ้น คนใจก็ร้อนขึ้น
การใช้ชีวิต เป็นไปอย่างรีบเร่งขึ้น คนเห็นแก่ตัวมากขึ้น

ตัวใครตัวมัน ช่างมันฉันไม่แคร์ ไม่ใช่พี่น้อง ไมใช่ญาติ เรื่องของเขา ถ้าทุกคนคิด
แบบนี้กันหมดสังคมคงวุ่นวาย สังคมไม่มีใครเหลียวมอง ไม่มีคนดูแล สุดท้ายปัญหา
ก้อมากองสุมไว้ โดยไม่มีใครเข้ามาแก้ไข คนรวยได้รับการยกย่อง เชิดชู คนจนถูก
เหยียบย่ำ จมดิน

คนดีถูกลืมเลือน ความดีถูกลบเลือนด้วยอำนาจเงินตรา คนดีลดน้อยถอยลง คนดีไม่ถูก
ส่งเสริม ผลสุดท้าย คนดีก้อลดน้อยถอยลง ทุกวันนี้สังคมไทยเป็นอย่างไร สังคมโลก
เป็นอย่างไร ข่าวคราว ฉกชิงวิ่งราว ฆ่ากัน เป็นว่าเล่น เห็นกันผ่านสื่อ กันทุกวัน ไม่มีวันใหน..
เลยที่ไม่มี ไม่อยากคิด มันปวดหัว ผมรู้สึกเบื่อกับสังคมไทย สังคมโลก ในปัจจุบัน

กาลวิบัติ คงย่างกรายเข้ามา ความสงบสุข ความร่มเย็น รอยยิ้ม การแบ่งปัน ความชื่นชม
ยินดี เลือนลางหายไป มันถูกแทนที่ด้วย อำนาจ ความเห็นแก่ตัวของใครบางคน
จะคิดอย่างไร เมื่อคุณถูกมองว่าคุณเป็นแค่หมากตัวนึง ในสังคมธุรกิจ อำนาจเงินตรา
แปลเปลี่ยนความผิด สิ่งที่ไม่ถูกต้อง ไปสู่สิ่งที่ถูกต้อง

แล้วความถูกต้องจะถูกกลบเกลื่อนด้วยเงินตรา ด้วยอำนาจเงิน เคยเห็นหรือไม่เงินซื้อได้
หลายอย่าง ซื้อความถูกต้อง ซื้อใจคน การหักหลัง การฉกฉวย การคอรัปชั่น แม้แต่เพื่อน
หรือความรัก ก้อยังได้ แต่สิ่งหนึ่งที่เงินซื้อไม่ได้เลย คือความจริงใจ อาจจะได้แค่ความจริง..
ใจจอมปลอม โดยปราศจากความจริงใจ ที่มาจากใจจริงๆ

ทุกวันนี้สังคมเริ่มย้อนกลับ ไปหาอดีต คนเมืองเบื่อ ชีวิตในเมือง เบื่อรถติด เบื่อควันพิษ
เบื่อเสียง สังคมที่วุ่นวาย สังคมที่รีบเร่ง เบื่อที่จะต้องทำงานเข้าออกตามเวลา
คนเมืองอยากไปใช้ชีวิต ในต่างจังหวัด ป่าไม้ สายลม ทะเล ขุนเขา ธรรมชาติ ที่สวยงาม
ไม่มีรถติด ชีวิตไม่ต้องรีบเร่ง แต่งตัวสบายๆ ไม่ต้องทำงานตามเวลา หลายคนคง
ไฝ่ฝันอยากเป็นอย่างนั้น

ในทางกลับกัน คนต่างจังหวัด หันเห ไปหางานทำในเมืองใหญ่ ชอบสังคมกลุ่มใหญ่
ชีวิตในเมือง ชอบแสงสี กลางคืน ชอบเดินห้าง ตากแอร์ ชอบทำงานสบายๆ ทำงาน
เข้าออกตามเวลา คนในอยากออก คนนอกอยากเข้า ทุกวันนี้โลกมันกลับกันหมดแล้ว
ลองย้อนกลับไปครั้งอดีต ก่อนหน้านั้น

ในตอนที่เป็นเด็ก ที่วิ่งเล่นในท้องไร่ท้องนา วิ่งเล่น อยู่ในสวนผลไม้ สวนหน้าบ้าน อยากกิน..
ผลไม้ก้อเดินเข้าไปในสวน ไปเก็บผลไม้มากินกัน อ่านหนังสือในยามว่าง อ่านไปกินผลไม้
ไป อากาศที่แสนบริสุทธิ สูดลมหายใจได้เต็มปอด ท้องทะเลที่สวยงาม ปลาน้อยใหญ่
มาเวียน ว่ายเล่นที่โขดหิน ริมหาด

ในน้ำมีปลาในนามีข้าว ทุกวันนี้มันเป็นเช่นไร มันถูกแทนที่ด้วย ตึกราบ้านช่องถูกแทนที่ด้วย
น้ำเสียจากโรงงาน ในเมืองใหญ่มันเป็นอย่างนั้น มันถูกแทนที่ด้วยความเจริญ มันอาจจะ
แค่สุขทางกายหรือเปล่าไม่รู้ แล้วความสุขที่แท้จริงมันอยู่ตรงใหน เคยกลับไปเยี่ยมพ่อแม่ที่.
บ้าน ที่ต่างจังหวัด ชนบท บ้านนอก รุ้สึกอย่างไร

ไม่มีรถติด ไม่มีควันพิษ ชีวิตมันไม่รีบเร่ง มันหลับได้เต็มตื่น มันหลับได้สนิท มันไม่มีอะไร
ต้องกังวล สายลมเย็นสบาย สดชื่นเหลือเกิน ท้องนาเขียวขจี ลมพัด ต้นไม้ใบหญ้าปลิวไหว.
นอนหลับสบายใต้ ต้นไม้ใหญ่ นอนมองดูดวงดาว มองดูพระจันทร์ มันสวยใช่ใหม
ผมก้อคนนึง ที่ไม่อยากไปใช้ชีวิตในเมืองใหญ่ ชอบความอิสระเสรี ชอบดอกไม้ใบหญ้า

ชอบอากาศที่แสนบริสุทธิ ใช้ชีวิตอย่างไม่รีบเร่ง ท้องฟ้าที่สดใส สายน้ำที่สวยใส สะอาด
ท้องทะเลสีคราม ชีวิตมันต้องการอะไรอีก ทุกวันนี้หลายคนหันหน้าเข้าหา ธรรมชาติ
วันหยุดงานพักผ่อน ไปเที่ยวทะเล ไปดูดอกไม้ใบหญ้า ไปเที่ยวดอย ไปแอ่วเหนือ เมฆหมอก
อากาศหนาวได้ใจจริงๆใช่ใหม เสื้อคลุม 1 ตัว พักพวกเพื่อนพ้อง

กางเต้นนอนกันบนดอย ตื่นขึ้นมาในยามเช้า พร้อมกับกาแฟ ซัก 1 แก้ว ขนมปังซัก 1 ชิ้น
เหม่อมอง ทะเลหมอกจากภูผาที่สูงชัน มองไปไกลลูกหูลูกตา สูดลมหายใจเย็นยะเยือก
สุดแสนจะหนาวเหน็บ แต่มันมีความสุข มันคงเกินคำบรรยาย ก่อไฟ นั่งผิงไฟไป
จิบกาแฟไป ความสุขใด จะเทียมเท่า ขอภัยที่ทำให้ต้องลำบากอ่านจนถึงคำสุดท้าย

แล้วอาจจะแวะมาเขียนใหม่ อ่านฟรีไม่เสียตังค์ อย่าอ่านดัง เดี๋ยวเขาจะว่า คนที่รู้สึกเบื่อ
ท้อแท้ กับชีวิต หรือผิดหวัง อะไรบางอย่าง หรืออาจจะมีความอยู่แล้ว แต่มันไม่ใช่สิ่ง
ที่ตามหา ลองค้นหามัน อะไรคือสิ่งที่ต้องการ อะไรคือสิ่งกำลังตามหา สู้ต่อไป สู้ๆๆ

เขียนโดย djrocky(ผมอีกนั่นแหละ)
วันที่ 5 พฤศจิกายน 2552
เวลา 8.47 น.

สิ่งที่คุณคิดกับสิ่งที่เขาเป็น มันอาจจะเป็นคนละเรื่องกัน

วันนี้ ขอเม้นแต่หัววันหน่อย วันนี้ ประมาณ 1 หรืออาจจะสองทุ่ม เพื่อนมัน ชวน
ไปงานลอยกระทง อย่างที่บอกเขาจัดงานก่อนวันลอยกระทงไม่รู้กี่วัน ขี้เกียจ
นับ งานลอยกระทงจริงก้อวัน ที่สองโน่น แล้วนี่ 25 ก้อเริ่มงานแล้ว แล้ววันที่
สองนี้ ก้อคงมีคนมางานกันตรึม คงได้อีกบรรยากาศนึง คุณละไปลอยกระทงกับใคร

ส่วนเรานี่ยังลอยกระทงหลงทางอยู่เลย แต่ละปีเราไม่เคยไปลอยกับเขาเลย
เราไม่ค่อยให้ความสำคัญเท่าใหร่ อิสลามไม่มีประเพณีแบบนี้ แต่ถ้าคุณมี
แฟนก้อคงไปลอยกระทงกับแฟน ก้อคงมีความสุขดีเหมือนกัน ไม่มีก้อไปกัน
เป็นครอบครัวพ่อแม่พี่น้องก้อได้อีกอารมณ์นึง 1 ครอบครัว ก้อ 1 กระทง

คงไม่จำเป็นต้องลอยเป็นคู่เสมอไป ใช่มะ รู้ใหม บางทีคุณอาจจะชอบคนๆ
นึง แล้วเขาอาจจะชอบคุณเช่นเดียวกัน แต่คุณรู้ใหม บางทีคุณอาจจะไม่ได้คิด
ว่าผู้ชาย ไม่รู้ส่วนใหญ่ใหมไม่รู้ คิดถึงเรื่องความเหมาะสมเสมอ หากว่าเขาเป็น
เครื่องบิน ไอ้แมวอย่างเราก้อคงได้แต่มองเครื่องบินบินผ่านไป


เหมือนดอกฟ้ากับแมวมัสญิด เราไม่เข้าวัด ไม่ชอบหมา โทษด้วย เหมือน
แมวกับปลากระป๋อง มันก้อได้แต่มอง ถึงแม้เครื่องบินบินลงมาจอด มัน
ก้อคงได้แต่มองอยู่ที่รั้วสนามบิน ทั้งๆที่มันอยากเขาไปใกล้เครืองบินเต็มที
เครื่องบินอาจจะคิดว่าแมวตัวนั้น ไม่สนใจเครื่องบิน

ก้อแค่แมว ตัวนึง แมวธรรมดาตัวนึง เครื่องบินก้อคงไม่ต้องมาสนใจ
แมวตัวนั้นหรอกใช่ใหม เครื่องบินก้อเหมาะกับเครื่องบินด้วยกัน บินไปไม่ต้อง
หันไปมองแมวตัวนั้นหรอก คงไม่ต้องมาให้ความหวังแมวตัวนั้น มันคงเป็นไป
ได้ยากที่แมวตัวนึงกับเครื่องบินลำนั้น จะมาเดินบนเส้นทางเดียวกัน

อาจจะด้วยเส้นทางที่เดินมันช่างแตกต่างกันเหลือเกิน ถึงแมวตัวนั้นอาจจะเศร้า
อยากอยู่ใกล้เครื่องบินเต็มที แต่ก้อคงต้องปล่อยให้เครื่องบินบินไปสู่เส้นทางดีกว่า
ไม่ควรฉุดรั้งลงมาเดินบนเส้นทางเดียวแมวตัวนั้น ใช่ใหม ถึงวันนึงแมวตัวนั้นก้อ
คงจะต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยวก้อคงไม่เป็นไร

รู้ใหม บางสิ่ง ที่คุณคิดกับบางสิ่งที่เขาคิด ถึงจะเป็นเรื่องเดียวกัน แต่บางครั้งสิ่ง
ที่คุณคิดกับที่เขาคิดมันอาจจะคนละความหมายกัน ทั้งๆที่มันก้อเป็นเรื่อง
เดียวกัน เคยคิดไปเองใหมล่ะ บางสิ่งบางเรื่อง บางอย่างคนเราก้อมีเหตุผล
ของตัวเอง แล้วถ้าหากคุณฝืนให้เขาทำในสิ่งที่เขาไม่อยากทำ

เมื่อเขาทำตามที่คุณต้องการ คุณอยากให้เขาเป็นในสิ่งที่ไม่ใช่ตัวเขา
แล้ววันนึงคุณอาจจะผิดหวังกับสิ่งที่คุณให้เขาเป็นก้อได้ แล้วถ้าคุณไม่ได้ชอบ
ใคร ก้ออย่าไปให้ความหวังใคร อย่าไปเอ่ยปากบอกเขาถ้าคุณไม่ได้จริงจัง
ควรจะปล่อยให้เขาเป็นแบบเดิมไปดีกว่า

เคยมีคนบอก ความเหมาะสม ถ้าพูดถึงเรื่องความเหมาะสม ถ้าคบกันที่ความ
เหมาะสม ถ้าอย่างงั้นมันก้อคงไม่มีใครเหมาะสมกับใคร คนจนแต่งคนรวย
คนรวยแต่งคนจน คนรวยกบคนรวย คนจนกับคนจน ความรักความชอบ
ไม่มีพรหมแดน ไม่มีอะไรมาขวางกั้น ทฤษฏี อาจจะใช่แบบนั้น

แต่ในความเป็นจริง มันมีอะไรหลายอย่าง ที่แตกต่างกัน คุณอาจจะไม่คิด แต่
เขาอาจจะคิด เรื่องแบบนี้อยู่ที่คนสองคน ใช่ใหม มันทำใจลำบากใหม ถ้าหาก
ความเป็นอยู่ หลายสิ่งหลายอย่างที่แตกต่างกันเกินไป กับคนสองคนมาคบ
มาอยู่ด้วยกัน ความลำบากคือสิ่งที่ผู้ชายไม่อยากให้เกิดขึ้นกับคนที่ตัวเองรัก

ผู้หญิงที่ตัวเองรัก ถึงแม้คุณอาจจะไม่สนใจ ทนได้กับความลำบาก ความแตก
ต่างที่จะเกิดขึ้นในวันข้างหน้า แต่เขาก้อคงทนให้คุณมาลำบากกับเขาไมได้
ไม่รู้สิคุณว่าไงล่ะ คิดแล้วมันเศร้าใหม ฉนั้นคงไม่ต้องคิดไรมาก ทุกคนมีเนื้อคู่
ของตัวเอง ถึงวันนั้นถ้าใช่ ถึงแยกจากกันนานแค่ใหน ถ้าใช่เนื้อคู่กัน
ก้อคงได้อยู่ด้วยกัน เพราะฉนั้นอย่าคิดมากเลยนะ


เขียนโดย ข้าน้อยเอง
วันที่ 29 ตุลาคม 2552
เวลา 16.44 น.

เสียงบ่นของคนใต้(ผมเอง)

เขียนจากชั้นสองของบ้าน วันนี้อากาศดีมาก มีหมอกจางๆอากาศดีๆ นั่งฟังเพลงเบาๆ
มองออกไปนอกหน้าต่างเพราะหันหน้าให้ต่างคอมตั้งอยุ่ตรงหน้าต่าง มีต้นไม้ใบหญ้า
รายรอบ มีเสียงนกร้อง จิ๊บๆ ไม่รู้เหมือนกันว่ามันนกอะไร ชนบท ต่างจังหวัด ไม่ว่าจะที่ใหน
แต่ทางใต้ เสียงไก่ขัน เสียงนก สายลม ต้นไม้ใบหญ้า บรรยากาศที่แสนสบาย
ที่อื่นก้อคงเป็นแบบนี้เช่นเดียวกันใช่ใหม

ทุ่งนาเขียวขจี ลมพัดแรง ๆ เวลาว่างๆ ไปนั่งเล่น ที่ศาลาเล็กๆ คุยกัน ที่บ้านพี่สาว
จะมีศาลาไว้นั่งเล่น บ้านพี่สาว อากาสดีมาก ลมพัดเย็นสบาย มีต้นไม้เต็มรอบบ้าน ร่มรืนดี
ว่างๆก้อหาไรกินเล่นกัน มันก้อคงน่าจะมีความสุข ชีวิตที่นี่ไม่ได้มีความรีบเร่ง ชีวิตที่เรียบง่าย
ไม่มีสัญญาณไฟแดง ไม่มีเสียงดังรบกวน นอนหลับได้สนิทใจ ไม่มีอะไรมากวนใจ
มีเสียงนกกล่อมนอน ในบางคืน มีเสียงคอยปลุกในยามเช้า

ไมว่าจะอยู่ที่ใหน ถ้าสบายใจก้ออยู่ได้ คับที่อยู่ได้คับใจอยู่ยาก เราอยู่แบบนี้เราก้อมีความสุข
เราคงไม่ต้องไขว่คว้า ไม่ต้องไปหางานทำในเมืองใหญ่ ใช้ชีวิตกับครอบครัว พ่อแม่
พี่น้อง พร้อมหน้าพร้อมตา ดูทีวีด้วยกัน ทานข้าวด้วยกัน หัวเราะด้วยกัน มันอบอุ่นดีเหมือนกัน
แต่บางครั้งก็เบื่อเหมือนกัน อยากมีชีวิตอิสระเหมือนนก

นกที่อยากจะบินไปใหนก้อได้ ตามที่ใจอยากไป เพียงแค่คิดจะไปก้อโบยบินไป ได้อย่างอิสระ
ถ้าชีวิตมันอิสระอย่างนั้นมันก้อคงดี ไม่ต้องมีใครมาต้องเป็นห่วงอะไรมากมาย
ไม่ต้องมีใครมาบ่นให้ฟัง ไม่ต้องมา ทำตามที่ใครบอก ไม่ต้องทนเสียงเจ้านายบ่น
เคยถามตัวเองบ้างใหม ทุกวันนี้ฃีวิตต้องการอะไร ชีวิตมันขาดอะไร

หัวใจมันเย็นชา ชีวิตมันเหงาไปใหม ชีวิตกำลังรออะไร กำลังค้นหาสิ่งที่ขาดหายไป
ต้องการอะไรมาเติมเต็มหรือไม่ ช่างมันใช่มะ ไม่เป็นไร ปล่อยให้มันเดินของมันไป
ปล่อยให้เวลามันเดินไป ดูชีวิตของนกเงือกซิ หากว่ามันมีคู่ มันใช้ชีวิต อยู่กับคู่ของมัน
แล้วหากว่าวันนึง คู่ของมันเกิดจากมันไป

มันก้อจะอยู่อย่างโดดเดี่ยวแบบนั้นตลอดไป ซึ่งในความเป็นของชีวิตคน คงเป็นไปได้ยาก
ในชีวิตเรา เราอยากมีชีวิตที่อิสระ มีรถซักคัน มีเงินซักก้อน แล้วก้อเที่ยวไป เที่ยวไปตลอด
เที่ยวไปอย่างอิสระ ค่ำใหนพักที่นั่น มีกล้องซักอัน มีสมุดบันทึกซักเล่ม มีกระเป๋าซักใบ
อยากไปเที่ยวทางเหนือ ระหว่างทางก้อแวะไปกระบี่ พังงา ภูเก็ต เนอะ

ไปแหลมพรหมเทพ ไปเกาะแก่ง ไปว่ายน้ำ ไปดำน้ำดูปะการัง ไปปีนหน้าผาที่ไม่เคยปีนเลย
เที่ยวไปอย่างที่ใจอยากจะปรารถนา ลองคิดดู มันคงมีความสุข เคยเห็นในทีวีบางราย
การเขาเที่ยวอย่างเดียว ท่องเที่ยวไปเรื่อย ไปต่างประเทศ ไปเที่ยวที่โน่นที่นี่ แล้วเขาก้อมี
รายได้ ในขณะที่เขาก้อท่องเที่ยวไปเรื่อยๆ มีกล้องวิดีโอ มีกล้องถ่ายรูป

มีสมุด 1 เล่ม บันทึกความทรงจำดีๆเก็บเอาไว้ เคยคิดอยากไปเที่ยวทางเหนือ
ชอบบรรยากาศเที่ยวเหนือ เที่ยวไปขึ้นดอย ก้อไม่รู้ว่าที่ใหน น่าเที่ยวบ้าง แต่ที่เห็นทุ่งดอก
บัวตอง มัน โอ้โห มันสวยมาก มันเหลืองอร่ามทั่วทั้งดอย สวยมาก แค่เห็นในทีวี นะ
แต่ลองจินตนาการดูมันคงสวยมากใช่มะ ใส่เสื้อคลุมซักตัว ตื่นเช้าหน่อย แล้วมา

ลงมาที่ทุ่งดอกบัวตอง น้ำค้างคงเยอะ มาถ่ายรูปกัน กาแฟซักถ้วย แล้วมองดูพระอาทิตย์
ขึ้นในยามเช้า เมฆหมอกจางๆ หนาวจับใจ แต่มีความสุขนะว่าใหม ไปเที่ยวหมู่บ้านชาว
เขา ไปซื้อของที่ระลึกเก็บไว้ ใส่ชุดชาวเขาถ่ายรูปกัน คงขำน่าดู ไม่อยากคิดเลย แค่คิดก้อ
อยากจะไป แล้วจะมาจินตนาการให้ฟังใหม่ ถ้าไม่ขี้เกียจนะ..............

ความหวังความฝันและการต่อสู้

ชีวิตของเด็กหนุ่มคนนึง ชีวิตในแต่ละวัน ชีวิตที่แสนจะน่าเบื่อ เงินหมดงานไม่มี กระเป๋าแห้ง
ชีวิตว่างเปล่า ตัวเปล่าๆ ชีวิตกำลังริบหรี่แต่ความฝันยังไม่มีวันหมด อย่ามัวคิดถึงแต่อดีต
คิดถึงแต่อดีต ก้อไม่ต้องมีอนาคตกันพอดี ชีวิตและความฝันกำลังเริ่มต้นในไม่ช้า
ชีวิตยังมีความฝัน และความหวัง ไม่เคยลืม ยังหวังอยู่เสมอ ใช้ชีวิต อยู่อย่างมีความหวัง
อย่าหยุดเดิน วันเวลาใกล้เข้ามาทุกที

นั่งเขียนหนังสือท่ามกลาง เสียงเพลงเบาๆ ยามพลบค่ำ แสงอาทิตย์เริ่มลับขอบฟ้า
ตอนนี้ห้าโมงเย็น ความร้อนเริ่ม หายไปพร้อมกับดวงอาทิตย์เริ่มลาลับขอบฟ้า ความหนาว
คืบคลานเข้ามา อาทิตย์ ลับขอบฟ้า ทอดแสง สีสันสวยงาม กระทบกับเมฆน้อยใหญ่
กระจัดกระจาย ทั่วทั้งขอบฟ้า ความมืดคืบคลานเข้ามา ความหนาวคืบคลานเข้ามาเรื่อยๆ

หลับตาคิดถึง อดีต คิดถึงเพื่อนเก่าเพื่อนสนิท แยกย้าย ต่างคน ต่างไป แยกไปดำเนินชีวิต
ของตัวเองมองไปอนาคตเจอผู้คนมากมาย ในแต่งละวัน มองโลกในแง่ดี ยิ้มสุ้กับปัญหา
ที่รุมเร้า เมื่อเริ่มต่อสู้ ต้องมีวันสำเร็จ เมื่อสำเร็จต้องมีเจอปัญหา ปัญหามีไว้แก้ ไม่ได้มีไว้หนี
เมื่อผ่านจุดนั้นไปได้ เมื่อเจอปัญหา อิกครั้ งก้อจะผ่านจุดนั้นไปได้ ทุกครั้งไป

ชาวจีน มือเปล่า ดิ้นรน อดทนสู้ชีวิต เก็บเล็กผสมน้อย จนมีเงินก้อน จากธุรกิจเล็กๆ
ไปสู่ธุรกิจใหญ่ ไปสุ่ ผู้มี ทรัพย์สินเงินทองมากมีเหลือเก็บ อย่าเดินหนีปัญหา อย่าคิดสั้นๆ
คิดอะไรคิดให้กว้าง มองโลกให้ไกล ใช้ชีวิตอยู่อย่างมีความหวัง
จุดประกายให้ชีวิตอยู่เสมอ

ล้มเหลว ต้องรุ้จักลุก ต้องรู้จักยืนด้วยขาของตัวเอง เมือยืนด้วยต้วเองแล้ว วันนั้นคือ
วันที่น่าภูมิใจที่สุด มแจะล้มกี่ครั้ง ก้อต้องลุก ถ้าคุณไม่รู้จักสุ้ คุณก็จะต้องเป็นผู้แพ้ตลอดไป
ไม่มีใครทำให้ตัวเราด้อยค่าได้นอกจากตัวของเราเอง

write by djrocky
d/m/y : 9 /10/2009
Time:10.54 น.

ความผิดหวัง ท้อแท้และความสุข

ความท้อแท้สิ้นหวัง ความผิดหวังจากอะไรก็แล้วแต่ ไม่ว่าจะเป็น
ความรัก หรืออาจจะเป็นอะไรอีกมากมาย ที่ทำให้ผิดหวัง

แต่สิ่งเหล่านี้ มันไม่เคยทำให้ คนเราถึงกับต้องตาย มันคงไม่ขนาด
นั้นแต่ก็ยังมีคนที่ไม่รักตัวเอง เหมือนกัน ที่ยังตัดสินใจผิดๆ สิ้นหวัง
ท้อแท้ ผิดหวัง คนเราก็ต้องเจอกันทุกคน เราลองมองไปดุคน พิการ

คนตาบอด คนที่ขอทาน ผมเคยเหนคนคนนึง นั่งขอทานอยุ่ในตลาด
แถวๆหาดใหญ่ เป็นโรคเท้าช้างหรือเปล่าก็ไม่รุ้ ขาโตข้างนึง
น่าสงสาร เขายังไม่เห็นอยากตาย

คนตาบอด คนพิการยังมีความฝันเลย ไม่เคยเห็นเหรอคนตาบอดที่
เขาร้ำเรียนกัน เขาก็ต้องใช้ความอดทนเป็นพิเศษ ถ้าเกิดว่าเขาท้อแท้
สิ้นหวัง แต่ตั้งต้น เขาก็คงมองไม่เห็นความฝันของเขาเลย

เราโชคดีแล้วที่เกิดมาครบ 32 ชีวิตมันก็ต้องมีบ้างที่ผิดหวังท้อแท้
แต่เราน่าจะทำตัวเองให้มีความสุขดีกว่า มานั่งเศร้าใจ ในเรื่องที่ผิดหวัง
เรืองที่มันทำให้ตัวเองรู้สึกไม่ดี ก็อย่าไปคิดถึงมันบ่อยนัก ทิ้งๆๆไปซะ

บ้าง แล้วมาลองหาอะไรที่มัน ไม่เศร้า หาเรื่องที่สุขใจทำ ดีกว่ามาคิด
ในเรื่องที่มันทำให้ไม่สบายใจนะครับ

ชาวเล ท้องฟ้าและจินตนาการ

แสงสว่างสาดส่อง สว่างไสว ร้อนผ่านไปทั่วทั้งร่างกาย หมู่แมกไม้ มากมาย แห้งตาย
ท่ามกลางแสงแดดที่ร้อนจัด ยามฝน ฝนตก ยามเย็น กลางวัน กลางคืนก้อแสน

จะหนาวเหน็บ เหม่อมองท้องฟ้า แลเห็นนกน้อย โผบินแต่ย่ำรุ่ง หมู่ฝูงนกกาบิน
ระหกระเหิน มุ่งหน้าไปอย่างไรจุดหมาย เมื่อยังไม่เจอจุดหมาย ต้องมุ่งหน้า ต่อไป
จนกว่าจะเจอฝั่งเจอจุดหมาย จุดเริ่มต้น เติมพลังให้ชีวิต
รีบลุกขึ้น ตื่นจากที่นอนในยามเช้า เปิดประตู ก้าวเดินออกไปนอกบ้าน ยืนสงบนิ่ง หลับตา

สูดกลิ่นหอมจาก แมกไม้ นานาพันธุ์ กำลังโปรยกลิ่นหอม รอรับแสงอรุณรุ่งในยามเช้า
เหม่อมอง แลเห็นดวงอาทิตย์ ต้อนรับวันใหม่ในยามเช้า สีสัน สดสวย กระทบกับท้องฟ้า
และน้ำทะเลสีคราม

เดินออกไปนอกบ้าน มุ่งหน้าไปยังสะพาน ที่ทอดตัวไปท่ามกลาง ทะเลที่ซัดสาดเข้าหาฝั่ง
อย่างไม่มีวันหยุด ถึงจุดหมายปลายสะพาน แลเห็นดวงอาทิตย์ ที่ขึ้นในยามเข้า อาทิตย์อัสดง
อาทิตย์ในยามเช้าย่ำรุ่ง

ครู่ใหญ่.. แสงแดดเริ่มสาดส่อง แมกไม้ ชูกิ่งก้าน บานสะพรั่ง รอรับแสงแดดในตอนเช้า สัตว์น้อยใหญ่
ออกหากิน ผู้คน ทำงาน หาเงิน ดำเนินชีวิต ต่อไปในวันใหม่ สะพานที่ซัดทอด คู่ขนานกัน ฝั่งหนึ่ง
ซึ่งอยู่ท่ามกลางแมกไม้ และหมู่บ้าน อีกฝั่งอยู่ท่ามกลางแมกไม้ มะพร้าว ชูใบ กิ่งก้าน และลำต้น
คดเคี้ยวไปคนละทาง เทียบกับผู้คนต่างชีวิต ต่างจิตใจ ยากนักจะหยั่งรู้ ถึงจิตใจข้างใน

แสงแดดเริ่มร้อน เดินเข้าหาฝั่ง ถึงตีนสะพาน มุ่งหน้าไปยังบ้าน ที่ทอดเสาไปยังท่าน้ำ
เสียงเรือกำลังติดเครื่องถึงเวลา หาปู หาปลา หาเงินมาประคองชีวิต ให้ยืนอยู่ เก็บหอมรอมริบ
รีบขึ้นเรือ เรือเริ่มออกห่าง ไกลฝั่ง ไปเรื่อยๆ โลกนี้แสน กว้างไกล ท้องฟ้าแสนจะกว้างใหญ่
เรือไกลฝั่งออกไป ออกไป จนมองไม่เห็นฝั่ง

ลับตา เหมือนดังกับชีวิต ที่ต้องดำเนิน เดินต่อไปหยุดเดินคือหยุดลมหายใจ เหมือนกับเรือ
ที่สิ้นเสียง ถุกทิ้งร้าง อย่างไม่มีวันกลับคืน........

ขุนเขา ดอกไม้ แจกัน จุดสิ้นสุดของการรอคอย

เคยมีคนบอกว่า ยิ่งปีนไปสูงเท่าใหร่ ก็จะยิ่งหนาวเท่านั้น
บางทีชีวิตของคนเราก็เหมือนกับแจกันใบนึง แจกันที่มีทั้งใบเก่าและแจกันใบใหม่
แจกันใบใหม่เปรียบเสมือนดั่งคนที่เพียบพร้อมไปด้วย ฐานะ การเงิน หน้าทีการงาน
มีชีวิตที่สมบูรณ์แบบ เป็นแจกันที่หลายคน ต้องการ ค้นหา ไฝ่หา หรือใฝ่ฝัน

แต่แจกันใบเก่าเปรียบเสมือนดั่งแจกันที่หลายคนมองข้าม ไม่เหลียวมอง
มันคงไม่น่าสนใจ มันคงไม่น่าซื้อหามาใส่ดอกไม้ที่สวยงาม หากเปรียบกับชีวิตคน
ก็เปรียบเสมือนกับคนที่ไม่มีความพร้อม ไม่ว่าจะในเรื่องของหน้าที่การงาน ชีวิตครอบครัว
คงจะเป็นแจกันที่รอวันซ่อมแซม ให้กลับมาดูสวยงามเหมือแจกกันใบใหม่

แต่ถึงจะซ่อมอย่างไรก็คงจะสู้แจกันใบใหม่ไม่ได้
สู้ในแบบที่เป็นแจกันใบเก่า หน้าที่การงาน การเงิน ชีวิตที่ไม่สมบูรณ์แบบเหมือน
กับแจกันใบใหม่หลายคนมองข้าม ไม่เหลียวมอง มันคงไม่น่าสนใจ คงไม่มีใครอยาก
ได้แจกันใบเก่ามาเก็บไว้ใส่ดอกไม้ที่สวยงาม แจกันใบเก่าก็คงต้องอยู่ในที่ที่ของมัน

มองดูขุนเขาที่สูงตระหง่าน ปีนไปเก็บดอกไม้ที่สวยงามบนขุนเขา
ดอกไม้ที่บานสะพรั่งสวยงาม ดอกไม้ที่สวยงามกับแจกันใบเก่าๆใบนึง
แจกันใบเก่าคงหมดหวัง ที่จะได้ดอกไม้ที่สวยงามมาครอบครอง
เปรียบเสมือนชีวิตของคนเรา ที่กำลังค้นหาตัวเอง ค้นหาใครซักคน อาจจะเจอแล้ว

อาจจะดูใจกันอยู่ หรืออย่างไรก็แล้วแต่ ลองมองออกไปยังขุนเขา มันช่างไกลเหลือเกิน
ไกลเกินจะเอื้อมถึง ยิ่งไขว่คว้า เหมือนจะยิ่งห่างไกล ห่าง ห่างงง ห่างออกไป
แล้วก้อห่างออกไปทุกที ทุกที เปรียบเสมือนเรากำลังป่ายปีน ปีนไปเก็บดอกไม้
ที่สวยงามบนขุนเขาที่ไม่รู้ว่าเราจะปีนไปถึงเมื่อไหร่ ขุนเขาที่สูงชัน เต็มไปด้วย
อุปสรรคและขวากหนามจะปีนไปถึงไหม

ถ้าหากว่าวันนึง หมดเรี่ยวแรงที่จะป่ายปีนขึ้นไปหาดอกไม้ เราควรจะหยุดปีนดีไหม
ถึงแม้จะป่ายปีนขึ้นไปมันก็คงไม่มีอะไรดีขึ้น หรือดอกไม้ที่กำลังจะป่ายปีนไปหา
อาจจะไม่มีอยู่จริง อาจจะคิดไปเองว่ามีถึงตอนนี้คุณอาจจะขึ้นมาถึงครึ่งทาง
ปีนมาถึงครึ่งทาง แต่ถ้ามันเหนื่อยนัก ควรจะหยุดปีนดีกว่าไหม

บางครั้งอาจจะปีนไปแล้วมีความมสุข รู้สึกตื่นเต้น น่ายินดี กับสิ่งที่กำลัง
ค้นหาตามหา แต่จะรู้สึกอย่างไร ถ้าหากว่าวันนึงเราปีนไปถึงยอดเขาแล้ว
กลับพบว่ามันมีแต่ความว่างเปล่า เราแค่คิดไปเอง มันไม่ได้มีดอกไม้ที่
สวยงามดอกนั้นเลย แจกันใบนี้คงต้องอยู่ในที่ที่ของมัน

ถึงแม้ตอนนี้อาจจะปีนไปยังไม่ถึงยอดเขา เพราะอาจจะด้วยระยะทางที่ยาวไกล
การรอคอยที่แสนจะเหนื่อยล้า ความท้อแท้ของจิตใจ การรอคอยที่แสนเศร้า
คงไม่มีใครอยากคอยอิกต่อไป คงต้องหยุดปีนเสียที คงต้องถอยกลับไปอยู่
ในที่ๆของเรา แจกันใบเก่าไม่เหมาะกับดอกไม้ที่สวยงาม

เบื่อ...เบื่อที่จะรอ เกลียดการรอคอย การปล่อยให้ใครรอ มันอาจจะบ่งบอกให้เห็นถึง
ความไม่เอาใจใส่ ไม่สนใจ ไม่แยแส ไม่เหลียวแล ช่างมันเหอะ ปล่อยให้รอไป
ให้คอยไปแบบนั้น แบบนั้นใช่ไหม หรือบางคนอาจจะคอยได้ บางคนอาจจะคอย
ได้แค่เพียง ชั่วระยะหนึ่ง ช่วงเวลาหนึ่ง บางคนอาจจะคอยมาตลอด จะให้คอยไป
อิกนานแค่ไหน เมื่อใหร่รู้ไหม ความอดทนของคนเรามันมีขีดจำกัด

ถึงวันนั้นอาจจะไม่มีใครคอยคุณได้อีกต่อไปหรือคุณอาจจะไม่สามารถคอยคน
คนนั้นได้อิกต่อไป คนคนนั้นคือใคร เพื่อน แฟน คนที่รัก คนที่ชอบ คนที่คบ
คนที่แอบชอบหรือใครก้อตามแต่ แล้วตัวคุณเองอาจจะต้องมานั่งเสียใจ เศร้าใจ
ที่ปล่อยให้เขาคอย หรืออาจจะเป็นตัวเขาที่ปล่อยให้คุณคอย คุณอาจจะ

เสียใจ ที่เขาก้าวย่างออกไปจากชีวิตของคุณ หรือเขาอาจจะเสียใจที่คุณ
ก้าวย่างออกไปจากชีวิตของเขา หรือว่าดีใจ สบายใจ ก็ไม่รู้ได้ ถึงวันนั้น
สิ่งที่ดีๆที่เคยทำให้กันก้อคงจะจบลงอยู่แค่นั้น จบแค่การจากลา ใช่ มันคง
จบลงเพียงแค่นั้น กลับมาอยู่ในที่ที่ของเรา คงไม่ต้องหวังว่าจะได้เป็นเจ้าของ

ดอกไม้ดอกนั้น ดอกไม้ที่ไม่รู้ว่าจะมีอยู่จริงเหรอเปล่า ดอกไม้ที่ไม่ใช่ดอกไม้
ของเรา ดอกไม้ที่มันไม่เหมาะกับแจกันเก่าๆ แจกันที่ไร้ค่า แจกันเก่าๆ
ก้อควรจะอยู่ในที่ที่ของมัน ที่ที่มันควรจะอยู่ แจกันที่ปราศจากดอกไม้ดอกนั้น
ส่วนดอกไม้ ในวันนึงก็คงจะได้เจอกับแจกันใบใหม่ ที่ดูดีกว่า แจกันที่เหมาะ
กับดอกไม้ดอกนั้น

Write By : Djrocky
d/m/y : 17/10/2009
Time : 16.40 น.
Update : 11.40 น.

ชีวิต สังคม การเปลี่ยนแปลง

เขียนตอนค่ำ 18.09 น. เอามาอัปเดต ประมาณ 06.30 น. วันที่ 18 เดือน
พฤศจิกายน 2552 ใกล้จะมืด มัวๆ สลัวๆ ความมืดคืบคลานเข้ามา เสียงไก่
ข้างล่าง มันร้องมันจิกกัน สงสัยมันทะเลาะกัน หรือมันอยากจะเป็นใหญ่
เป็นโตในฝูงของมัน หัวหน้าฝูง มันเลยจิกกัน ตีกัน แต่อย่าแต่ว่าไก่ หรือสิงห์
สาราสัตย์ทั่วไปเลย แม้แต่คนก้อยังทะเลาะกัน

ไม่ต้องไปดูกันที่ใหน ในทีวีที่เห็นกันทุกวัน เขาทะเลาะกันทุกวี่ ทุกวัน เสื้อแดง
เสื้อเหลือง ตอนหลังมี เสื้อน้ำเงิน เสื้อดำ ไม่รู้เสืออะไรออกมาเปิดโปง ออกมา
แฉโน่นแฉนี่ มันน่าปวดหัว ทั้งๆที่เนื้อเรื่อง หรือความจริงมันจะเป็นอย่างที่พูด
ออกมาหรือเปล่าก็ไม่ทราบ เห็นพูดออกไปไม่รู้กี่ครั้งกี่ครั้งก็เห็นมีแต่เงียบ

พูดถึงคนมันช่างปวดหัว ว่าตัวเองด้วย เพราะตัวเองไม่ได้ดีเด่มาจากใหน
ในโลกกลมๆใบนี้ ทุกวันนี้มันช่างน่าปวดหัว สังคม การเป็นอยู่ ทุกวันนี้
มันเริ่มเหลวแหลก ดูอย่างทางใต้ ตอนนี้หนักหนากันจิงๆ มันไม่ยอมจบ
โลกใบนี้ก่อนหน้านั้นมันเป็นอย่างไร แล้วตอนนี้มันเป็นเช่นไร

วิถีชีวิตของผมที่บ้าน ก่อนหน้านั้นจะทำอะไร มันก็ทำได้อย่างสนิทใจ ไม่ต้องมาระ
แวดระวัง อะไรมากมาย ไม่ต้องไปกังวลว่าจะมีใครมาทำร้าย ไม่ต้องไปกังวล
ว่าจะโดนลูกหลง อากา เอ็ม 16 แต่ทางนี้มันไม่ได้มีเหตุการณ์อะไร พื้นที่ผม
อาศัยอยู่มันไม่มีอะไรเกิดขึ้นมาช้านาน ซึ่งอาจจะเป็นเพราะทำเล

อาจจะยากจาอการหลบหนี ของโจร 350 ที่มันไม่ยอมจบ เพราะมันมี สถานีตำรวจ
รายรอบ ทุกทิศทุกทาง มีป้อมยามของ ชรบ. มีทหาร คอย ดูแล หลายจุด มีตำรวจ
เข้ามาดูแลหลายแห่ง มันปลอดภัยดี แต่มันขาดความอิสระที่แท้จริง มันเหมือนกับ
จับนกตัวนึงมาไว้ในกรงขนาดใหญ่มาก

กรงมันก้อยังเป็นกรง มันคือการกักขัง แล้วความอิสระ ที่มันเคยโบยบินไปใหนมา
ไหนได้อย่างอิสระ ก่อนหน้านั้น มันหายไปใหน ทำไมมันต้องมาอยู่ในกรง
มันก็คงไม่ต่างกันกับชีวิตของคนทางนี้ซักเท่าใหร่ แต่ที่หนักกว่าคือการใช้ชีวิต
ทาง 3 จังหวัด คงหนักกว่านี้หลายเท่า

มันน่าสงสาร มันไม่อยากดู คนบริสุทธิ์ ชีวิตที่เคยมีความสุข พร้อมหน้าพร้อม
ตา แล้วต้องมาขาดที่พึ่ง ขาดพ่อ ไม่มีแม่ ขาดแม่ หลายคนเสียชีวิต ในแบบ
ที่ไม่น่าจะเป็น ในแบบที่มันไม่ใช่ที่อยากให้เป็น พวกเขาคิดอะไรกันอยู่
พวกเขาทำร้ายผู้คนบริสุทธ์ทำไม

พวกเขามีญาติพี่น้อง มีพ่อ มีแม่ บ้างใหม พวกเขาเศร้าเสียใจกับสิ่ง ที่ทำลง
ไปบ้างหรือเปล่า แต่ส่งหนึ่งที่พวกเขาทำลงไปแล้ว ผลกระทบที่เกิดขึ้นกับตัว
เขาคือ ชีวิตที่ไม่เคยนอนหลับ ได้อย่างสนิทใจ ชีวิตที่มีแต่ความระแวง คนเราเมื่อทำ
ความผิดลงไป ชีวิตมันก็ไม่ได้มีความสุข มันอาจจะมีอะไรค้างคาอยู่ในใจตลอดเวลา

วันนี้เขาอาจจะไม่ได้คิด แต่วันนึงที่เขานึกอยากจะกลับตัวเป็นคนดี ถึงแม้อาจจะ
มีคนให้โอกาสให้เขาได้กลับตัว แต่สิ่งที่ค้างคาอยู่ในใจ มันคือสิ่งที่ทำลงไป ที่ไปทำร้าย
ไปทำลาย ไปยิง ไปฆ่าคนบริสุทธิ พวกเขาก็คงต้องมานั่งร่ำร้อง ร่ำให้ และคงไม่
มีความสุข แล้วการดำเนินชีวิต อาจจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป

***ถ้าหากว่าใครที่อ่านบทความนี้ แล้วคิดจะอยากทำลาย ทำร้ายใคร คิดใหม่ คิดให้ดี
มีความสุขบนความทุกข์ของคนอื่น คุณทำได้ลงเหรอ แล้วสุขจริงหรือไม่ สุขแล้วทุกข์
ไปตลอดชีวิตแบบนั้นหรือเปล่า คิดให้ดีๆ

ชีวิต ยามค่ำคืนของคนที่นี่ก่อนหน้านั้น มันสนุกสนาน มันไม่เงียบเหงา เหมือนอย่าง
ทุกวันนี้ ร้านน้ำชากาแฟ ข้าวต้มยามดึก ข้าวยำ ร้านๆอะไรต่างๆมันเงียบเหงา
ลงไปเยอะ มันน่าปวดหัว ที่อื่นๆก้อเช่นเดียวกัน แต่ปัญหามันอาจจะ
แตกต่างกันออกไป มันก้อยังเป็นปัญหา ที่น่าปวดหัวอยู่ดี

ขอทาน ขโมยขโจร ฉกชิงวิ่งราว สารพัดรูปแบบ ของคนฉกฉวย ทุกเสี้ยววินาที
คือความระแวดระวัง ไว้ใจตัวเอง ไม่อยากไว้ใจคนอื่น ตัวใครตัวมัน ต่างคนต่างอยู่
สีหน้าบึ่งตึง เย็นชา เข้ามาแทนที่รอยยิ้ม ที่จางหายออกไปทุกทีๆ

มันไม่สามารถใช้ชีวิตได้อย่างสนิทใจเหมือนก่อนหน้านั้น ความเจริญเข้ามา
พร้อมๆกับการเปลี่ยนแปลงทางสังคมหลายๆอย่างเปลี่ยนการดำเนินชีวิต
เปลี่ยนแปลง การเป็นอยู่ เปลี่ยนแปลงนิสัยคน เปลี่ยนแปลงหลายสิ่งหลายอย่าง
ความเจริญเข้ามาพร้อมๆกับการลดบทบาทชีวิตของคนบางกลุ่ม วัฒนธรรมดีๆ

สาบสูญหายไปพร้อมๆกับความเจริญที่ก้าวไปข้างหน้า ใบหน้าสวย ใสๆ ถูกเติมแต่ง
ด้วย เครื่องสำอางจากเกาหลี ญี่ปุ่น เสื้อยืด เสื้อเชิ๊ต สวยๆ ถูกทดแทนด้วย
สายเดี่ยวตัวจิ๋ว สมุนไพรดีๆ ขมิ้น มะขาม เยอะแยะมากมาย ถูกแทนที่ด้วยสารเคมี
มันอาจจะเห็นผลได้เร็วกว่าหรือเปล่า แค่พูดเท่านั้น ไม่ถูกใจอย่าเราล่ะ

**** ไว้จะมาบ่นใหม่นะ****

เขียนโดยเราเอง วันที่ 17/11/2552เวลาประมาณ 19.30 น
อัปเดต ตอนเช้า ประมาณ 06.30 น

ไดอารี่เล่มแดง 6 : เหรียญมีสองด้าน

ระหว่างการนินทาคนอื่น กับการถูกคนอื่นนินทา คุณคิดว่าใครจะเจ็บปวดมากกว่ากัน
ในโลกนี้ไม่อะไรดีที่สุดหรือชั่วสุดขีด การมองคน ควรมองให้กว้างๆ ควรมองให้ถึง
แก่น เห็นเขาจากภายนอกก็อย่าไปตัดสินว่าเขาไม่ดีไม่มีคนดีที่สุด ไม่มีคนเลวที่สุด
ทุกคนย่อมมีทั้งที่ดีและไม่ดีปะปนกัน

คนเราทุกคนต่างก็มีเหตุผลกันทั้งนั้น เราจะตัดสินคนจากที่สิ่งเราเห็นมันก็คงไม่ได้
คุณอาจจะเห็น ใครหลายคนที่ดูเหมือนนิสัย ดูไม่ค่อยดีเลย ชอบกินของฟรี ไปไหน
มาไหนกับใครไปด้วยกัน แต่ไม่ชอบแชร์ ไม่ยอมจ่าย เขาอาจจะมีเหตุผลอะไรของเขา
เขาอาจจะเก็บเงินไว้ให้ลูกให้เมีย หรืออาจจะเก็บเงินไว้ซื้อกับข้าวก็อาจจะเป็นได้

เพื่อนชวนก็ไม่อยากขัด แต่บางคนติดนิสัย มีเงินแต่ไม่ยอมจ่าย อันนี้ก็ไม่ขอพูด
ถึง หลายคนทำงานหนัก ตอนเช้าก็ไปทำงานตามปกติ เลิก 5 โมงเย็น ยังพักไม่ทัน
หายเหนื่อย ก็ต้องไปทำงานพิเศษอีก เขาอาจจะมีภาระ หรือมีเหตุผลส่วนตัวของเขา
แต่ทำงานเยอะก็ดี จะได้มีเงินเก็บเยอะ ในภายภาคหน้าจะไม่ลำบาก

หลายคนมีหน้าที่การงานที่ดี หลายคนมีหน้าที่การงาน ที่คนอื่นอาจจะดูถูกดูแคลน
คนกวาดถนน คนเก็บขยะ หรืออะไรก็แล้วแต่ เราก็ไม่ควรไปดูถูกดูแคลนเขา เขาก็ทำ
งานสุจริต เขาไม่ได้ไปขายยาบ้า ยาอี หรือทำงานอะไรที่มันผิดกฏหมาย บางทีชีวิต
คนเรามันไม่ค่อยมีทางเลือกให้ชีวิตสักเท่าใหร่

หลายคนอาจจะไม่ได้เรียนจบสูงๆ อาจจะมีเหตุผลเรื่องเงิน ครอบครัว ลูกเมีย อาจจะ
ต้องยอมทำแม้อาจจะเป็นอาชีพที่ตัวเองไม่ได้ ต้องการจะทำ ไม่มีสิทธิ์คิดที่จะเลือกงาน
เลือกงานครอบครัวก็อดตาย เราพูดถึงชีวิตของใครหลายคนที่ ลำบาก ยากจน ไม่มีโอ
กาสแต่จะเลือกงาน หลายคนมีความสุข สบายบนกองเงินกองทอง

ผมก็แค่พูดให้ฟังเท่านั้น โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน คนรวยก็รวยสุดๆ เงินทอง
มากมากเหลือจ่าย กินทิ้งกินขว้าง แต่ไม่ทุกคน หมายถึงแค่บางคนเท่านั้น
แต่ลองมองมาดูที่คนจน คนจนก็จนสุดๆ บางวันไม่มีแม้แต่ข้าวสารจะกรอกหม้อ สังคมไทย
ช่องว่างระหว่าง คนจนกับคนรวยช่างห่างกันเสียจริง นี่ถ้าคนที่เขามีเงิน 100 ล้าน

พันล้านหมื่นล้าน เขาบริจาคเงิน ช่วยเหลือคนจน เยอะๆหน่อยก็คงดี ถ้าบิลเก็ตเป็นคนไทย..
ก็คงดี แล้วประเทศไทยจะได้มีเงินบริจาคเยอะๆ ถ้าค่าเงินบาท แพงเหมือนเงินปอนด์อังกฤษ
เหมือนฝั่งตะวันออกกลาง เหมือนคูเวต เหมือนบาเรนห์ก็คงดี คนไทยจะได้รวยๆกัน ลองคิดดู
เงิน คูเวต มีหน่วยเป็นดีนาร (Dinar) 1 Dinar = 116 ,117 บาท

ส้มตำที่บาเรนห์ จานละ 150 ถึง 250 บาท น่าจะไปทำงานที่เฉพาะคูเวต แต่คงนอน
นับ ปลอกกระสุน นอนนับลูกระเบิดก็สนุกใช่ใหมท่าน คนไทยหลายคนยังทำงานที่คูเวต
ไปเก็บ ผัก ผลไม้ หรือไปทำงานอย่างอื่น แต่ก็ได้เงินเป็นกอบเป็นกำ เงินเดือนเป็นหมื่น
เป็นแสน ก็เพราะค่าเงิน ที่แสนแพง แต่ไม่มีที่ใดสุขใจ เหมือนบ้านเรา

หลายคนได้โอกาสดีๆ ได้งานทำที่ดี มีเงินเดือนดีๆ แต่หลายคน ไม่มีโอกาสที่ดี พลาดโอกาส
ดีๆ ไม่มีเงินเดือนดีๆ เงินทุกบาททุกสตางค์ กว่าจะได้มาเลือดตาแทบกระเด็น เหนือ ใต้
กลาง อีสาน ตะวันออก ทุกภาค ทุกจังหวัด ทุกพื้นที่ ทุกหย่อมหญ้า ยังมีคนจนอีกมากมาย ที่
ต้องการความช่วยเหลือ ผู้หลักผู้ใหญ่เขาทำอะไรกันอยู่ จะทะเลาะกันไปถึงไหน จะทะเลาะ

กันไปทำไม ก็ไม่เห็นจะมีอะไรดีขึ้นเลย รังแต่จะทำให้ สังคมวุ่นวาย สู้มาช่วยกันทำงาน
ช่วยเหลือ คนรากหญ้า ชาวบ้านตาดำๆ จะดีกว่า เมื่อคนมีเงิน ไปจับจ่ายซื้อของ ซื้อสินค้า
ซื้อโน่นซื้อนี่ ของขายดี เงินทองหมุนเวียน ประเทศไทยมีเงินมาช่วยเหลือ มาสนับสนุน
มาพัฒนาประเทศกันต่อไป

18.01 *** คุณเคยมองคนยังงัย มองคนแบบไหน แล้วตัดสินยังงัยว่าเขาดีหรือไม่ดี
แต่คุณจำไว้นะครับ ทุกคนต่างก็มีเหตุผลของตัวเอง สิ่งที่คุณเห็น คุณอาจจะว่าเขาไม่ดี แต่
แต่เขาอาจจะมีเหตุผลของเขา จงมองคนให้มองให้กว้างๆ มองนานๆ มองลึกๆ มองให้ถึง
แก่น อย่าตัดสินคนจากสิ่งที่เห็น เพราะบางทีสิ่งที่เห็นอาจจะไม่ใช่ตัวตนของเขาจริงๆ

คุณอาจจะมองดูเหมือนคนไม่ดี แต่เขาอาจจะเป็นคนที่ดีมากมาย มีคนอยู่สองคน คนนึง
แต่งตัวดีภูมิฐาน หน้าตาเกลี้ยงเกลา สะอาดสะอ้าน ใส่สูตรผูกเนกไทรองเท้าหนังอย่างดี
กับอีกคน แต่ตัวมอซอ กางเกงมอยีนส์ขาดๆ รองเท้าผ้าไบขาดๆผุๆ ทันทีที่คุณเห็น
คุณคงจะคิดว่า คนแรก คนที่แต่งตัวดีๆ ดูเหมือนน่าจะเป็นคนดีเมื่อเปรียบเทียบ

กับอีกคนใช่ใหม จริงๆแล้วมันตัดสินไม่ได้เลย ว่าคนใหนเป็นคนดี บางทีคนที่แต่งตัวมอซอ
อาจจะเป็นคนดีก็ได้ หรืออาจจะเป็นคนที่แต่งตัวดีๆ อาจจะเป็นคนดี ผมถึงบอก การจะตัดสิน
คนมันตัดสินกันไม่ได้ง่ายๆ มันต้องมองกันนานๆ มองให้ถึงแก่น จะคบใคร จะไปใหนกับ
ใครก็ดูให้ดีๆนะครับ
เขียนโดย : นายขี้บ่น
วันที่ : 12 ธันวาคม 2552
เวลา : 18.55 น.

ไดอารี่เล่มแดง 5 : พรสวรรค์กับพรแสวง ระแคงตีนเดิน

พรสวรรค์ ทุกคนเกิดมาพร้อมกับพรสวรรค์ พรสวรรค์ของคุณคืออะไร
บางคนพูดเก่ง เรียนเก่ง รำเก่ง ยิ้มเก่ง ดีจัง ร้องไห้เก่ง ไม่ดีเลย
ทำอาหารเก่ง อันนนี้ดีชอบกินอาหารอร่อย ทำให้กินหน่อยนะ
หลายคนได้ดิบได้ดี เพราะพรสวรรค์ที่ติดมากับตัว

บางคนไม่มีพรสวรรค์ หรืออาจจะมี แต่ไม่มากเหมือนคนอื่น อาจจะเป็นพร
สวรรค์ที่เหมือนกันกับคนอื่น แต่อาจจะไม่เก่งเหมือนคนอื่น ทีนี้เราอาจจะ
ต้องใช้พรแสวงเพิ่มเติม โดยการเรียนรู้ในสิ่งที่คุณยังไม่รู้ สุดท้ายแล้ว
พรสวรรค์ไม่อาจจะสู้พรแสวงได้ หากว่าคนที่มีพรสวรรค์ ไม่แสวงหา
ความรู้เพิ่มเติม

ตกลงคนเราก็มีสองมือสองเท้าเหมือนกัน พรสวรรค์ก็อาจจะแค่ส่วนหนึ่ง
ที่มาพร้อมกับชีวิต แต่สิ่งที่ต้องทำสำหรับ ชีวิตมนุษย์ ชีวิตของคนเรา
คือการเรียนรู้อยู่ตลอดเวลา เรียนรู้สิ่งใหม่ เรียนรู้ในสิ่งที่ดี โดยไม่ปิดกั้นตัว
เอง บางทีพรสวรรค์อาจจะได้มาจากการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ

บางทีคุณอาจจะยังไม่รู้เลยว่าพรสวรรค์ของคุณคืออะไร มันใช่พรสวรรค์หรือไม่
จนกว่าคุณจะได้ลองทำในสิ่งที่เรายังไม่เคยทำ เรียนรู้ในสิ่งที่คิดว่าตัวเองทำไม่ได้
เรียนรู้ในสิ่งที่ตัวเองไม่อยากทำ เรียนรู้ในสิ่งที่ตัวเองไม่อยากแม้แต่จะเหลียวมอง
มัน ก็หมายถึงในสิ่งที่ดีอีกนั่นแหละ

การปิดกั้นตัวเองจากการเรียนรู้ ก็อาจจะเหมือนการปิดกั้นตัวเองจาก โอกาส
อาจจะเป็นอนาคต หรือโอกาสของความเจริญก้าวหน้าของตัวคุณเองก็ได้
ใครจะไปรู้ ไม่มีใครได้ทำงานตรงกับวุฒิ ที่ตัวเองได้ร่ำเรียนมาทุกคน สมัยก่อน
หน้านั้น จะทำอะไรก็ทำให้มันดีซักอย่าง เรียนรู้มันให้เก่งให้ชำนาญเสียซักอย่าง

แต่สมัยนี้มัน ณ เวลานี้ ตอนนี้ โลกมันเปลี่ยนแปลง อะไรๆก็เปลี่ยนไป มันเอามาใช้
ในสังคมปัจจุบันไม่ได้แล้ว ควรแสวงหา เรียนรู้สิ่งใหม่ๆอยู่ตลอดเวลา เรียนรู้ทุกอย่าง
เท่าที่จะทำได้ มันน่าจะมีซักอย่างที่น่าจะตรงกับตัวคุณและเป็นตัวคุณ ลองเสาะแสวงหา
ดูอาจจะมีซักอย่าง หรือหลายอย่างก็ไม่รู้ที่อาจจะเป็นพรสวรรค์ ที่มากกว่าพรสวรรค์
ที่คุณมีอยู่ก็ได้ใครจะรู้

หลายคนค้นพบตัวเองตั้งแต่ยังเยาว์วัย พรสวรรค์ที่พ่อแม่เป็นคนมอบให้ พ่อแม่เป็น
ศิลปิน เป็นนักแต่งเพลง เป็นนักเขียน เป็นนักร้อง หรือเป็นอะไรๆอีกมากมาย ลูกไม้หล่น
ไม่ไกลต้น อย่างที่เขาบอกพรสวรรค์ ก็จะถูกถ่ายทอดมายังคนรุ่นหลัง นั่นคือพรสวรรค์
แต่สำหรับหลายคน พ่อแม่ไม่ได้เป็นแต่อาจจะมาจาก

ปู่ย่าตายาย หลายคนบอก หลายคนฝันอยากทำตามความฝัน อยากทำโน่น อยากทำนี่
ไม่อยากทำงานแล้ว เบื่องานที่ทำ มันไม่ใช่งานที่อยากทำ พรสวรรค์อาจจะใช่ความฝัน
หมายถึงสิ่งที่คุณอยากทำ อยากทำร้านอาหาร นั่นมันอาจจะใช่พรสวรรค์ของคุณก็ได้
คุณอาจจะทำอาหารเก่ง คุณถึงอยากทำร้านอาหาร

อยากเปลี่ยนงาน คุณอาจจะไม่ชอบงานที่คุณทำ สิ่งที่คุณไม่อยากทำมันอาจจะเป็นงาน
ที่คุณไม่ชอบ ไม่ใช่งานที่คุณไฝ่ฝัน แต่คุณไม่จำเป็นต้องออกจากงาน เพื่อเสาะหางานใหม่
ที่เหมาะกับตัวคุณ ทำไปก่อน หากว่าได้งานใหม่ งานในแบบที่คุณไฝ่ฝัน แล้วคุณก็ค่อยขยับ
ขยายกันไปนะหลายคนอยากเป็นวิศวะ อยากเป็นครู อยากเป็นผู้จัดการโรงแรม

อยากเป็นปลัด อยากเป็นชาวสวน อยากเป็น สส สจ อบต อาจจะใช่เพราะพรสวรรค์
ในการพูด พูดเก่ง สังคมเก่ง ก็ไปทาง ครู ปลัด นักการเมือง มีพรสวรรค์ทางด้านการคำนวณ
ก็ไปทางวิศวะ เขียนโปรแกรม ถ้าชอบทางขีดๆ เขียนๆ ก็ไปทางศิลปะ ซึ่งมีออกไปอีกหลาย
แขนงหลายสาขา แต่ทุกอย่างย่อมเรียนรู้กันได้

แล้วมันก็ไม่ยากที่จะเรียนรู้ ถ้าแสวงหาหรือต้องการที่จะเรียนรู้มัน ลองถามตัวเองดูซิ
พรสวรรค์ของคุณคืออะไร ความฝันของคุณคืออะไร แล้วได้ทำตามความฝัน ได้ทำตาม
พรสวรรค์ที่ตัวเองมีแล้วหรือยัง ค้นพบตัวเองแล้วยัง ถ้าหากว่ารู้ว่าพรสวรรค์ของคุณคืออะไร
ลองค่อยๆก้าวไปหามันซิครับ ค่อยๆก้าวไปอย่างมั่นคง ก้าวเดินไปหามันนะครับ

ไดอารี่เล่มแดง 4 : โลก ชีวิต มนุษย์ ความเปลี่ยนแปลง

ในโลกที่แสนจะกว้างใหญ่ โลกใบกลมๆ มีน้ำทะเล มีน้ำแข็งที่ขั้วโลก มีพื้นดิน มีท้องฟ้า
ที่สวยงาม แล้วมนุษย์อย่างเร็ว ก้ออาศัยอยุ่ รอบๆโลก สงสัยเหมือนกันทำไมเราถึงไม่ร่วงหล่น
หลุดออกไปนอกโลก นอกอวกาศ เขาแรงโน้มถ่วง โลกของเรามีแรงดึงดูด ใช่ใหม
น้ำแข็ง แต่ละปีมันละลาย พังทะลายลง ทุกๆปี โลกเรามันร้อนขึ้น

เมื่อก่อน อากาศร้อน ยังไม่เคยร้อนมากมายเหมือนตอนนี้ อากาศตอนนี้ ยิ่งถ้าใส่แขนสั้น
รู้สีกได้ ถึงความร้อนที่มันเพิ่มขึ้นมากกว่าเดิม มากกว่าก่อนหน้านั้นเสียอีก ยังไม่รู้เลย
คนรุ่นหลัง จากนี้ต่อไปจะอยู่กันได้อย่างไร ก็คงต้องปรับตัวกันไป ใช่ใหม โลกเราเป็นเช่น
มันก็เพราะความเจริญ ความรุ่งเรือง ของ สังคม ของอารยประเทศ

ทั้งหลาย (นี่เรากำลังบ่นให้ฟัง ไม่จำเป็นต้องอ่านให้จบก้อได้ไม่ว่า) โลกมันร้อน ก้อไม่ใช่
เพราะใครที่ใหน เราทำกันเองทั้ง นั้น ความเจริญมีที่ใหน ที่นั่นก้อความเสื่อมถอยของ
บางสิ่ง สิ่งแวดล้อม รอบข้าง คนเรามันคิดไม่เหมือนกัน มีเงิน ใครๆ ก้ออยากลงทุน
ทำธุรกิจ สร้างฐานะ สร้างเนื้อสร้างตัว ไม่แปลก ที่คิดแบบนั้น

แต่ถ้าเป็นไปได้ ไม่ทำความเดือดร้อนให้คนอื่น ก็เป็นพอ เท่าที่เห็นทุกวันนี้ ไม่ว่าจะ
เป็นที่ใหน ที่มีนิคมอุตสาหกรรม ที่นั่นเจริญมาก แต่ลองมองไปที่สิ่งแวดล้อ ม
น้ำเน่าเสีย ยากที่จะเยียวยา ปลาน้อยใหญ่ น้ำใส ที่เคยมีมา มันจางหายสูญสิ้นไปหมด
อาชีพเก่าแก่ อาชีพพาปลา ของชาวบ้านตาดำๆ หมดลู่ทางทำมาหากิน

ก็ต้องพึ่ง หางานทำ ในโรงงานอุตสาหกรรม โลกเราจากก่อนหน้านั้น กับตอนนี้ มันแตกต่าง
กัน ลองไปหาดู แล้วเอามาเปรียบเทียบกันดู ว่ามันแตกต่างกันอย่างไรบ้าง
ในเรื่องของความคิดคนเรา มันแตกต่างกัน คนเรามัน ต่างคน ต่างพ่อ ต่างแม่ ต่างศาสนา
ต่างสีผิว ต่างความคิด ต่างหน้าตา ต่างชาติพันธุ์ คนไทย ฝรั่งมังค่า คนจีน เกาหลี ญี่ปุ่น

ต่างภาษา ต่างทาทาง กิริยา วาจา ท่าทาง ต่างนิสียใจคอ ต่างกันหลายสิ่ง ต่างกันหลายอย่าง
คงไม่แปลก ที่ความคิด ความอ่านมันย่อมแตกต่างกันออกไป จะให้เป็นไปอย่างที่เราคิด
ทุกอย่างก็คงเป็นไปได้ ก็เข้าใจ คำว่ามนุษย์ หากใครจะว่า ไปตำหนิ ใครก้อคง ไม่ต้อง
ไปต่อต้าน ควรย้อนกลับมาดูตัวเองดีกว่า

เพราะเราต่อต้านหรือ ด่าว่า หรือตำหนิ เขากลับไปก็คง ไม่มีอะไรดีขึ้นมา สู้ ไม่ไปสู้รบปรบ
มือปล่อยให้เขาบ่นไปคนเดียวก็คงพอ ยอมรับตัวเอง ในสิ่งที่คิดว่าตัวเอง แล้วก้อไม่ต้อง
ไปเดือนร้อน ในสิ่งคนอื่นตำหนิ ติเตียน ในเมื่อตัวเราไม่ได้เป็นเช่นนั้น ใช่ใหม ใช่หรือไม่
ลองมองออกไปกว้าง ทุกวันนี้ เห็นมีแต่คนฉกฉวยโอกาส

ทุกวันนี้โลกเรามันเปลี่ยนไป หลายสิ่งหลายอย่างเปลี่ยนไปหมด คนเห็นแก่ตัวมันเพิ่ม
มากขึ้น ชัยชนะ คือความล้มเหลวของอีกฝ่าย ในขณะเดียวกัน ถ้าหากว่าล้มเหลว
ก็ลองกลับมาดูตัวเอง อะไรที่ทำให้ตัวเองล้มเหลว ความล้มเหลว ย่อมแปรเปลี่ยนชัยชนะ
ได้เช่นกัน หากเรายอมรับตัวเอง และปรับปรุงเปลี่ยนแปลงความล้มเหลว แล้วต่อสู้

แล้วก้าวเดินไปสู่ชัยชนะ อย่างรอบคอบ สุขุมเยือกเย็น ค่อยเป็นค่อยไป แต่มั่นคง
หรือจะวิ่ง พุ่งทะยานไปสู่ชัยชนะเพียงชั่วครู่ แต่สุดท้ายต้องพบกับความล้มเหลว
อย่างยาวนาน ความล้มเหลว ที่อาจจะต้อง ยอมเป็นฝ่ายปราชัยตลอดไป
คนดี คือ คนที่ไม่ทำผิดอะไรเลย ในโลกนี้ คงไม่มี ใครคนใหนที่ไม่เคยทำความ

ผิด ผิดแล้วกลับตัว กลับใจ เริ่มต้นกันใหม่ ไม่มีคำว่าสาย หากจะทำความดี (ก้อได้แต่
บ่น ผมก็แค่เขียน ไปอย่างที่อยากเขียน เขียนไปอย่าง ที่จินตนาการ เขียนไปอย่าง
สมองมันสั่ง เขียนไปอย่างทีสมองคิด คิดออกจากสมอง กรองมาจากจิตสำนึก จากใจ
แล้วพิมพ์ออกไปให้คุณได้อ่าน แต่คุณอาจจะเบื่อหรือเปล่า เราก็ไม่รู้

แต่ที่เรารู้คือเราจะเขียนไปเรื่อยๆ เขียนไปในแบบของผม) ยังไม่สายหากคิดจะกลับใจ โลก
มันไม่ได้สวยหรู อย่างที่คิดใช่ใหม ความแน่นอนคือความไม่แน่นอน เราจะไว้ใครได้บ้าง
โลกมันเปลี่ยนไปมากมายเหลือเกิน ก้อคงได้แต่ชีวิตอย่าง ระแวดระวัง นิสัยใจคอของคน
มันก้อเปลี่ยนไปเยอะ ลองย้อนไปก่อนหน้านั้น ตอนที่ ยังไม่เจริญรุ่งเรืองเหมือนปัจจุบัน

อู่ข้าวอุ่น้ำ ชาวบ้านหาปูหาปลา ทำไร่ทำนา ปลูกผัก ผลหมากรากไม้ ลองกลับไปถามพ่อ
แม่ดูซิก่อนหน้านั้นเขาทำอะไรกัน บ้าง ก่อนหน้านั้น สมัย บรรพบุรุษ เขาใช้ชีวิตกันอย่างไร
เขาไม่มีรถยนต์ ไม่มีโทรศัพท์ ไม่มีเครื่องบิน ไม่มีอินเตอร์เน็ต ไม่มีไฟฟ้าใช้กัน มีแต่ธรรมชาติ
ล้วน ไม่มีควันพิษ ไม่มีโรงงานอุตสาหกรรมมาปล่อยน้ำเสีย

ไม่มีห้างสรรพสินค้า มีแค่ผักผลไม้ ใบหญ้า ที่ปลูกกินกัน ที่เอามาแลกเปลี่ยนกัน ที่ขอกัน แบ่ง
กันกิน ตอนนี้ ในหัวเมืองมันหาไม่ได้แล้ว มันอยู่แค่ ชนบท ชานเมือง ไกล ออกมาเท่านั้น แต่
มันก้อคงไม่เหมือนเมื่อก่อนอยู่ดี แต่ก็ยังคงไว้แค่บางส่วนเท่านั้น เพราะที่นา ท้องไร่ท้องนา
ถูกนายทุนรุกซื้อ ทำไร่ ทำสวนปาล์ม ไร่มันสำปะหลัง ทำสวนทำไร่ขนาดใหญ่กันหมด

ทุกวันนี้คงได้แต่ปลง กับโลกใบนี้ ทุกคนหันให้ความสำคัญกับเรื่อง วัตถุนิยมกันมากขึ้น แม้
แต่ตัวผม เพราะผมก้อไม่ใช่คนดีมาจากใหน ก็แค่คนธรรมดาๆคนนึงเหมือนกันกับคุณ
ก็ไม่มีแปลกที่ทุกคนอยากได้อย่างมีกัน แต่แค่เราใช้ชีวิตของเราไปในแบบที่เราเป็น ในแบบ
ที่ไม่ทำให้คนอื่น หรือใครเดือนร้อน ก็คงพอ ใช้ชีวิต ในแบบที่ทำให้ตัวเองมีความสุข
แค่นั้นก้อพอแล้วใช่หรือไม่ จบแล้วครับ ไว้มาบ่นฟ้งใหม่ จะบ่นไปเรื่อย..................

เขียนโดย คนขี้บ่นคนนี้แหละ
เขียนเสร็จเวลา 12.05 น.
วันที่ 6 ธันวาคม 2552

ไดอารี่เล่มแดง 3 : เสียงบ่นจากข้าพเจ้า

เขียนเมื่อ 03.07 น. อากาศหนาวจัง หนาวมาก นอนให้ทีวีดูอยู่ข้างล่าง แต่คอมมัน
อยู่ด้านบน ก็คงเพราะว่าสัญญาณมันดีกว่า เคยตั้งไว้ข้างล่าง แต่วันนึงแมวมันเกิดฉี่ลอย
ฟ้ามาจากข้างบนบ้าน ลงมาข้างล่างโดนคอมเรา แต่ดีไม่ไม่โดนเต็ม แค่เฉียดๆ ไม่งั้น คง
พังไปแล้ว อีกอย่างที่เอามาไว้ข้างบน เพราะว่าสัญญาณมันดีกว่าข้างล่าง

เราใช้ N72 ต่อเน็ต มันเล่น edge ได้ แต่ก็ยังช้ากว่า cdma cdma วิ่ง เป็นเมกเลย
เร็วสุด 3.1 เมกแน่ะ แต่ในความเป็นจริง ไม่มีใครทำได้ถึงอย่างที่บอกมาซักราย
แต่พูดถึงในระบบไร้สายตอนนี้ cdma เร็วสุดแล้ว เคยไปเล่นที่ศูนย์ มันวิ่ง ประมาณ 1.2 M
แต่บางที่ 1.5 แต่บางคนบอก มันวิ่งถึง 3 เมก แต่คงยาก

เพื่อนซื้อมาเป็นหมื่น เป็นยูเอสบี โมเด็ม C-motech Rav.A 3.1 M ตอนนี้ราคาคงไม่ต่างกัน
เท่าใหร่ มันต่อสายภายนอกได้ ทำให้สัญญาณมันคงทีกว่าเดิมไปอีก ถ้ามีเสารับสัญญาณโทรสับ
ในกรณีที่มันอยู่ไกล เสาส่งสัญญาณ ตอนนี้ใช้เน็ตของบริษัท ต่อกับมือถือ เพิ่งจดทะเบียน
เป็นเน็ตซิม สมัครไปวันที่ 15 แพคเกจ 500 บาท 250 ชม แล้วก็แถมให้อีก 50 ชม

เพราะว่าผมเพิ่งสมัครใช้เน็ตซิม ก็ใช้ไปตามปกติ เร็วกว่า GPRS นิดหน่อย แต่ผมก็มาเซงเอา
ตอนนี้ซิ ตอนที่น้องชายโทรมาบอกว่าให้ลองเช็คดูว่า ชมเน็ตยังเหลืออีกเท่าใหร่ น้องบอกให้
น้องชาย ให้กด *911*1# ก็ลองกดดู แล้วมันก็ขึ้นมาสองบรรทัด ข้างบนมันเป็น 0 หมดเลย
ปกติมันน่าจะบอกว่า ใช้ไปเท่าใหร่ กี่ชม กี่นาที แล้วยังเหลืออีกกี่ชม แต่มันเป็น 0 หมดเลย

เอ้าหมดได้ไงกัน ก็ยังเหลืออีก 200 ชมได้มั้ง ที่แน่ๆคือมันยังไม่หมด มันเอาเปรียบกันไปหรือ
เปล่า อีกบรรทัดมันเขียนว่า 7ชม .54 นาที นี่เราใช้เกินไปสงสัย แล้วมันเกินได้ไง ก้อยังเหลือ
เยอะ 300 ชม 15 วันใครจะบ้าใช้หมดแล้วน้องก็โทรไป 1200 ศูนย์แจ้งความไม่เป็นธรรม
เรื่องกิจการโทรคมนาคม เขาก็บอกให้ลองติดต่อศุนย์

ศูนย์ที่เราซื้อเน็ตซิมมาเล่นนะแหละ เขาก็บอก มันตัดทุกวันที่ 30 ไอ้เราก็จะว่าไงล่ะ ระบบ
มันเป็นอย่างนั้น นี่เราโง่เองเนอะ แต่คงโง่ครั้งเดียว ก็คงพอ แต่คิดว่าจะดูมันไปก่อนอีกเดือนนึง
แต่จะว่าไป คนอื่นก็คงเป็นแบบเราหลายคนคิดไปคิดมา ลูกค้า เสียเปรียบ ถ้าจิงใจทำไม
ไม่คืนชั่วโมงเน็ตที่เหลือให้ล่ะ เหลืออีกตั้งเยอะ ......ใช่เหรอไม่

มีอีกเรื่องนึงจะเล่าให้ฟัง นี่เราคงโง่อีกเหมือนกัน เราต้องไปประชุมทุกเดือน ที่อำเภอ ต้นเดือน
ทุกเดือน วันนี้เราก็ไป ประชุมตอน 09.30 แต่จะเล่าเรื่องเดือนก่อนเดือนที่แล้ว หลังจากที่ประชุม
เสร็จ (เดือนก่อน) ก็ออกไปเดินเล่นคุยเพื่อน แล้วก็เดินไปอำเภอ ขึ้นบันไดไป ก็เห็นมีน้องๆ เขาตั้ง
โต๊ะแจกซิมฟรี แต่เป็นซิมรายเดือน แล้วก็มีแบบที่ขายด้วย

แต่ก็เลือกแบบฟรี เพราะใครก็ชอบของฟรีใช่หรือไม่ก็ให้บัตรประชาขน ไปถ่ายเอกสาร สมัคร
เสร็จเรียบร้อยก็ได้ซิมมา เป็นกล่องเล็กๆแบนๆ เก็บใส่ถุงกางเกง ยังไม่ได้แกะออกมาใช้เลย
ไม่ได้โทรด้วยซ้ำ ไม่ได้แกะซิมมาใช้เลย แต่ก็ยังมีบิล ค่าโทรศัพย์เนอะ นี่ตกลงเราโง่อีกตามเคย
เขาถึงบอกของฟรี ไม่มีในโลก หว่านพืชหวังผล เคยได้ยินเหรอไม่

เพราะฉนั้นอย่าชะล่าใจเลย ว่าของฟรีที่ได้มันจะฟรีจริง คิดไว้เสมอของรีไม่ได้มีในโลก อาจจะมี
จริงๆ แต่ก้อคงน้อยเอามากมาย ฟรีก็จริงแต่หวังผลอะไรเหรอไม่ ทำดีไม่ต้องการสิ่งตอบแทน
ถูกใช่ใหม เวลาประมาณ 03.38 น.บ่นพอแล้ว นอนดีกว่า ราตรีสวัส

คนบ่น : ข้าน้อยเอง
วันที่ : 3 ธันวาคม 2552
เวลา : 08.34 น.(เวลาที่พิมพ์ลงคอม)

ไดอารี่เล่มแดง 2 : ท้องฟ้า สายลม สายฝน

วันที่ 2 ธันวาคม 2550 ตอนนี้ 06.41 ตื่นขึ้นมาแต่เช้าทุกวัน ส่วนใหญ่จะก่อน 0.6.00 น.
เพราะเราต้องลุกมาละหมาดทุกวัน วันนี้ฝนก็ยังตกเหมือนเดิม ยังมืดอยู่เลย คงจะด้วย
เพราะ ท้องฟ้า ถูกปกคลุมด้วยเมฆหมอก ท้องฟ้าถูกปกคลุม ฟ้าฝน สายฝน
ที่ชุ่มชื่น เย็นฉ่ำ อยู่ตลอดเวลา ก็ยังไม่รู้เหมือนกันว่ามันจะหยุดตกเมื่อใหร่

มันตกตั้งแต่เมื่อคืน หลับก็ไม่แน่ใจว่ามันหยุดตกตอนใหนหรือไม่ แต่ก็ได้ยินอยู่ตลอด
เวลา มันยังตกอยู่ ตอนเช้าๆ แบบนี้ส่วนใหญ่ที่นี่เขาจะไรอะไรร้อนกินกัน อาจจะเป็น
น้ำชา กาแฟ ข้าวเหนียวนึ่งข้าวโพดมะพร้าว ทางใต้กับทางเหนือ ทำไม่เหมือนกันเนอะ
เมื่อวานพี่สาวบอก ว่ามีเพื่อนอยู่คนนึง

ถามว่าข้าวเหนียวมะพร้าวเขาทำกันยังงัย พี่สาวก็บอกไปว่า ก็เอามะพร้าวขูด ใส่เกลือ
ไปนิดๆ แล้วก็เอามาคลุกกับข้าวเหนียวร้อน แล้วเพื่อนพี่สาวก็บอก แค่เนี๊ยะ พี่สาวก็
บอกว่าใช่ แต่ละที่ ผลหมากรากไม้อาจจะเหมือนกันแต่ กรรมวิธีการทำอาจจะแตกต่าง
กันออกไป แล้วความอร่อยก็คงไม่เหมือนกัน นี่อร่อยอีกแบบนึง โน่นก็อร่อยอีกแบบนึง


06.49 มันยังตกอยู่เลย ฝนยังตกอยู่เลย กำลังนั่งฟังเพลงเพราะๆ อนนไลน์ จาก Uplay
นี่ใกล้จะ เจ็ดโมงเช้ามันยังเห็นมืดอยู่เลยคงเป็นอีกวันที่ไม่ได้ไปใหน คนที่นี่ ฝนตกแบบ
นี้เขาไม่ค่อยไปใหนกัน อย่างที่บอกคนที่นี่ส่วนใหญ่เขาทำสวนกัน
สวนยางเมื่อฝนตกก็ทำอะไรไม่ได้

ก็ว่างทั้งวัน ทุกบ้านก็ว่าได้นะ ที่ทำสวน บ้านนอกมันก็เป็นอย่างนี้แหละ แม้แต่ครอบครัว
ผม แม่ผมยังกรีดยางเลย แต่ฝนตกแบบนี้ก็ไม่ได้ทำอะไร ก็คงนอน แล้วก็ ทำอะไรไปเรื่อยๆ
ของแก เพราะเป็นคนไม่ชอบอยู่นิ่ง ดูซิ รอบบ้านผลหมากรากไม้อยู่รอบบ้าน แกทำเองซะ
ส่วนใหญ่ อยากกินก็แค่เดินไปหยิบมา เดินไปเกี่ยวมันมา ก็เท่านั้น

สวนผลไม้ ที่ห่างออกไปประมาณ 5 กม คงจะได้ มีเงาะ มีมังคุด มีลองกอง มีทุเรียน กล้วย
กระท้อน โดนขโมยอยู่บ่อย กระท้อนเนี่ย คราวก่อนหายไปไม่รู้เท่าใหร่ ไม่ทันได้สุก ขโมย
ไปอีกเนอะ ก็ลูกมันใหญ่น่ากิน หวานๆๆ เม็ดใหญ่ๆ เนื้อนิ่มๆ น้ำจิ้มซักหน่อยก็คง น้ำลาย
สอเลยเนอะ ชอบจิงของเปรี้ยวๆ หน้าบ้านก็มีนะชมพู่ มะม่วง

อ้อหน้าบ้านเนี่ยมี นกด้วยนะ มีกรงนกกรงใหญ่ กรงเล็กด้วย หลายกรง พ่อเป็นคนชอบเลี้ยง
บางทีคนเขามาขอก็ให้ไป อุตสาห์เลี้ยงไม่รู้ว่าทำไม่ไม่ขาย แต่บางคนบอก ไม่สงสารมันบ้าง
เหรอ เอามันมาขังไว้ทำไม ทำไมไม่ปล่อยมันไปซะ เราก็ไม่รู้เหมือนกัน ถ้าเราปล่อยไป ก็คง
มีคนจับมันอยู่ดี จับไปแล้วก็ไม่รู้ว่าจะเลี้ยงดีเหมือนพ่อผมเหรอไม่

ที่บ้านมีนกเขาตัวใหญ่ สีขาว สีเทาๆ หลายตัว กรงเล็ก 3-4 กรง กรงใหญ่ 2 กรง กรงนึงใหญ่
หน่อย กรงนึงเล็กมาหน่อย กรงใหญ่หนักมาก จำได้ว่า มีหลายคนมาช่วยกันยกมันตั้งไว้บนเสา
เป็นเสาไม้ ที่ทำไว้ฝังดินเอาไว้ มี 3 เสา เรียงกันเป็นแถวแล้วกีตีไม้ ตอกตะปู ทำฐานให้มัน
รับกรงที่จะเอามาวาง ตอนแรกคิดว่ามันคงจะอยู่ได้ไม่นาน เพราะกรงหนักมาก
4 คนยกท่าจะหนัก ยกกี่คนไม่รู้จำไม่ได้เหมือนกัน ตอนนี้เวลา

07.10 น. ฝนยังตกอยู่เหมือนเดิม รู้สึกนิดหน่อย เดี๋ยวก็คงจะไปหาอะไรกินหน่อย บางที
ก็รู้สึกเหงา เบื่อ เหมือนกันกับชีวิต เดิมๆ ชีวิต ที่ไม่มีใคร แต่ก็ไม่เป็นไร เราก็ยังมีเพื่อนๆ
อย่างคุณ มีอะไรก็มาเล่าสู่กันฟังบ้างนะ เดี๋ยวจะเอาบทความโพสในแทก
ก็จะไปหาไรหม่ำหน่อย สู้ๆ นะครับ .

ไดอารี่เล่มแดง 1 : ชีวิต วันเวลา สิ่งที่ค้นหา..

วันที่ 1 ธันวาคม 2552 เขียนตอนค่ำๆ อากาศดีๆ ท้องฟ้าครึ้มๆ แสงอาทิตย์จางๆ
แทบจะมองไม่เห็นแสงอาทิตย์ ในยามพลบค่ำแบบนี้ ที่นี่ สงขลา ทางใต้ฝน เริ่ม
มาอีกแล้ว ไม่รู้เหมือนกันว่ามันจะตกอีกนานแค่ใหน มันตกมาตั้งแต่เมื่อคืน
ตกๆหยุดๆ อยู่เช่นนั้น เดี๋ยวก็ตกเดี๋ยวก็หยุด วันนี้ผมไม่ได้ไปใหน อยู่บ้านทั้งวัน

เบื่อเหมือนกัน แต่ก็อาศัยเน็ตเป็นเพื่อนแก้เหงา รู้สึกไม่อยากไปไหน
เวลา17.32 น. ฝนกำลังตก ตกลงมา เทลงมา ฝนตกปรอยๆ ชีวิตของชาวใต้
ส่วนใหญ่โดยเฉพาะที่นี่ ที่อื่นด้วย ภาคใต้แต่สวนใหญ่จะเป็นชานเมือง หรือฝั่งชนบท
เขาทำสวนกันเขากรีดยางกัน อาชีพ ไร้ปริญญา ชีวิตไร้ปริญญา

มีแต่ปริญญาชีวิต ที่ต้องสู้กันต่อไป มีปริญญาอยู่ในมือ ใครเขาจะมานั่งทำสวนใช่มะ
เขาก้อไปหางานทำงานในเมือง หัวเมืองใหญ่ๆ คนที่มีสวนยางเยอะๆหน่อย 10
20 ไร่ ก้อต้องตื่นกัน ตั้งแต่ตอนไก่โห่ ตี 2 ตี 3 โน่น คงเหนื่อยไม่เบาเลย

10 ไร่ตกวันละ 1000 เขาไปกรีดกัน ก็ไปกรีดกัน ประมาณ ตี 4 เสร็จจะประมาณ
8 โมง 9 โมงเช้า จากนั้นเขาก็ว่างทั้งวันแล้ว ไม่ทำอะไร ก็นอน ไม่นอนก้อไปข้างนอก
ไม่ก็ นกกรงหัวจุก แทบแยกกันไม่ออก ทุกบ้านนะ ทุกบ้านก็ว่าได้ที่มีนกเหล่านี้
นกกระหัวจุก อาจจะเห็นว่าน่าสงสารเนอะ แต่ที่บ้านก้อมี แต่เป็นของพ่อ

มันเคยอยู่ในโลกกว้างๆของมัน โบยบินไปใหนมาไหนได้อย่างอิสระ แล้วจู่ๆถูกจับ
มาให้อยู่ในกรง ก้อไม่รู้เหมือนกัน เคยเห็นในทีวี เห็นมีข่าวเกี่ยวกับนกกรุงหัวจุกนะ
เขาบอกว่ามันผิดกฏหมาย เป็นสัตว์สงวนหรือไม่ ก็ไม่แน่ใจ เห็นตำรวจจับด้วยรู้สึกว่า
เขาเอามาขายกัน แต่ที่ไหนก็ไม่แน่ใจ แต่ทางภาคเหนือเยอะมาก

มีครูฝึก คนนึงเป็น ตชด. หรือทหารก็ไม่แน่ใจ ภูมิลำเนาอยู่ในพื้นที่จังหวัดลำพูน
แต่ทำงานทางใต้ จังหวัดสงขลา บ้านเกิดของผม ที่โน่นมีนกกระหัวจุก ท่าทางจะเยอะ
ขับรถจากลำพูน มาสงขลา เอานกกรงหัวจุกมาด้วย ประมาณ 10 ตัวได้มั้งคับ
ขายเพื่อนผู้ช่วยผมคนนึง (ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน) ผมก้อเป็นผู้ใหญ่บ้านเช่นเดียวกัน

ฝนกำลังจะตก อากาศหนาว ลมหนาวกำลังพัดมา ผมมองออกไปนอกหน้าต่างมองดู
ก้มตัว แหงนมองดูท้องฟ้าเมฆหมอก ท้องฟ้ามืดครึ้มเสียจริง ตอนนี้ 17.46 ได้เวลาละ
หมาดก่อนคับท่านเดี๋ยวมาต่อ......................

********************************************************************************************
17.56 ขอมาบ่นต่อ ลมพัดแรง เล็กน้อยถึงปานกลาง รู้สึกได้ถึงสายลมที่พัดผ่าน หน้าต่าง
ตรงหน้าเข้ามา หน้าต่างสามบาน เปิดออกไปจะเห็น ต้นส้มโอ กล้วย สะเดา สวนมะพร้าว
เขียวขจี ต้นไม้ใบหญ้า เต็มไปหมด บรรยากาศมันช่างน่าหลับทับสิทธิ์ เอ๊ยนอนหลับ
พักผ่อน ก็มันอากาศดี นี่อีกซักพักใหญ่ ฝนก็คงตกลงมา

แล้วมันก็คงตกหนักเสียด้วย แล้วก็คงจะตกยาวไปอีกกี่วันก้อไม่รู้แล้วชาวสวนก็
คงว่างกันอีก พูดถึงนกนะ ก็มีนกเขา กับ นกกรงหัวจุก ตอนนี้ที่ทางใต้เขามีกันเกือบ
ทุกบ้าน นกเขาไม่แน่ใจ แต่กรงหัวจุก มีทุกบ้านก็ว่าได้ เขาจะมีเวทีแข่งประชันเสียงกัน
เมื่อก่อน มีไม่กี่เวที แต่ตอนนี้มีเกือบทุกหมู่บ้านมั้ง แล้วหมู่บ้านนึงบางทีก็มี สอง

หรือไม่ก็สามเวที เจ้าของเวทีจะได้เงินค่าสมัครมั้ง แต่ที่รู้ได้ไม่นอ้ยเลย เขาจัดกันอาทิตย์
ละครั้ง ก้อลองคิดดู 1หมู่บ้าน 1 วัน ตกลงแล้วมันก็มีกันทุกวันแหละ แล้วเขาก้อจะมี
รางวัลด้วยสำหรับ นกตัวไหนที่มันร้องเสียงดี ที่ไพเราะหน่อย แต่ไม่แน่ใจเขาตัดสินกันยังงัยอีก
ผมไม่ได้ไปกับเขาหรอก เพราะส่วนตัวแล้วไม่ชอบ อยากให้มันกลับไปอยู่ในที่ของมัน

ตอนนี้กำลังฟังเพลง พอดีได้โปรแกรม Uplayมา ติดตั้งเสร็จ เปิดโปรแกรมกดเพล
ก็จะมีเพลงเพราะๆ ไพเราะๆมาให้ฟังตลอดเวลา ยาวเหยียดเป็นหางว่าว ไม่ต้องไปเปิด
winamp Aimp2 WMP ให้เสียเวลาด้วย แถมมันยังโชว์ชื่อเพลงในเอ็มอีกแน่ะ

****************************************************************************************
ตอนนี้ทุ่มกว่าๆ เมื่อกี้ลงไปข้าง หอมแกงอะไรก็ไม่รู้เหมือนกัน ไม่แม่ก็พี่ สาว ที่เป็นคน
ทำ พี่ชายก็ทำเก่ง ส่วนเรา ไม่เลย ไม่ชอบทำ กินกับกิน กินอย่างเดียว แต่ก็มีช่วยบ้าง
เหมือนกัน ไม่ชอบทำอาหารที่มันยุ่งยาก ถ้าอยู่ข้างนอกหิวก้อ ก๋วยเตี๋ยว ข้าวแกง
อยู่บ้านไข่เจียว ก็พอแล้วมั้ง ถ้าไม่มีใครว่างทำให้กินอ่ะนะ ง่ายๆ สบายๆ ไม่ยุ่งยาก
ไม่เรื่องมาก ไม่ต้องมีพิธีรีตอง

สบายๆ ชิวๆ ทุกอาชีพย่อม มีข้อดีมีข้อเสีย อาจจะเหนื่อย ไม่เหมือนกัน เหนื่อยมาก
เหนื่อยน้อยแตกต่างกันออกไป เหนื่อยกาย เหนื่อยใจ เหนื่อยไม่เหมือนกัน แต่สิ่งหนึ่งที่
มันเหมือนกัน คือเป็นงานสุจริตเหมือนกัน คงจะไปดูถูกัน ก็คงไม่ได้ เพราะคนเราแต่ละ
คนเกิดมามันไม่เหมือนกัน เกิดมาร่ำรวย เกิดมายากจน ทำงานไม่เหมือนกัน หน้าที่
การงานต่างกัน การเป็นอยู่แตกต่างกัน

แต่ชีวิตก็ต้องดำเนินเดินไปตามความฝันต่อไป ไม่ว่าคนระดับไหน ก็ล้วนแต่มีความฝัน
ในเมื่อเรากล้าที่จะฝัน เราก็ต้องกล้าที่จะทำมันให้เป็นจริงด้วย ใช่หรือไม่ อย่าปล่อย
ให้ความฝันเป็นแค่เพียง ความว่างปล่อย ทำความว่างเปล่าในความฝันให้มันเป็น
สิ่งที่จับต้องได้ ถ้าหากคิดว่าสิ่งที่ทำมันถูกต้องดีแล้ว ก็ไม่ต้องไปสนใจคำพูด ถากถาง

จากใคร จะไปได้ซักกี่น้ำ เคยได้ยินหรือไม่ พูดกับตัวเองซิ ว่าต้องทำได้ ต้องทำได้ ต้องทำได้
อาจจะล้มเหลวบ้าง แต่ก็สู้กับมันซักตั้ง คงไม่มีใครล้มเหลว หรือผิดหวังไปตลอด
ใช่ใหม ซักวันมันต้องเป็นของคุณ สู้ๆนะ

21 ธ.ค. 2552

เส้นทางสายกลาง ชีวิตที่พอดี

ทะเลาะกับแฟน พ่อแม่เลาะกัน ทะเลาะกับพี่ชาย ทะเลาะกับพี่สาว ทะเลาะ
กับป้า น้า อา ปู่ย่าตายาย ทะเลาะทำไม มันเป็นเรื่องที่น่าปวดหัว ทะเลาะแล้ว
เป็นยังงัย ทะเลาะแล้วก็โกรธกัน บางทีก็เกลียดกันไปเลย แล้วก็อาจจะโกรธไป
หลายวัน หรือหลายเดือนก็ไม่รู้

อ้วนไป ผอมไป ขาวไป ดำไป เตี้ยไป อยากสูง ไปผ่าตัดศัลยกรรมกระดูก ซื้อยาดีๆ
มากินเพื่อ,kเพิ่มความสูง ผิวไม่ค่อยขาวเลย อยากขาวชมพูๆ ก็สถาบันเสริมความงาม
อ้วน ก็กินยาลดความอ้วนกันไป ไม่ดีเลย ผอมก็กินเอาๆ ก็ไม่อยากผอม คนผอม
อยากอ้วน คนอ้วนอยากผอม คนขาวอยากดำ คนดำอยากขาว

ทุกสิ่งทุกอย่างในโลกนี้ล้วนแล้วแต่ถูกสร้างมาด้วยความพอดีและสมดุล เส้นทาง
สายกลาง ทำไมไม่ลองเดินบนถนน เดินบนเส้นทางสายกลางดูบ้าง พูดง่าย แต่ทำยาก
มันก็เหมือนกันกับความดี ใครๆก็บอกว่าทำยาก ยิ่งกว่าไปทำในสิ่งที่ไม่ดี สิ่งที่ไม่ดี
ทำได้ง่าย แต่สิ่งที่ดี ความดีทำอยากยิ่งกว่าไม่รู้กี่เท่า

แต่สังคมของเราจะอยู่ได้ ต้องมีคนดีมาช่วยสร้างสรรค์สังคมด้วยเช่นเดียวกัน คุณ
ก็ทำในสิ่งทีดีได้ ทุกคนสามารถทำความดี สามารถทำในสิ่งที่ดีได้
อากาศร้อนเปิดแอร์ อากาศหนาวอาบน้ำอุ่น เคยคิดถึงเส้นทางสายกลางหรือเปล่า
เส้นทางแห่ง ความสุขกาย สุขใจ

จะทำอะไรก็ทำอย่างพอดีๆ รักแต่พอดี ทำงานแต่พอดี ใช้จ่ายอย่างพอดี ท่องเที่ยว
ไปอย่างพอดีๆ ไม่แปลกที่คนเราต้องให้รางวัล กับตัวเองบ้าง เหงาๆเบื่อๆ ก็ออกไป
เที่ยว ออกไปขับรถเล่นกินลมบ้าง ทุกอย่างอยู่ที่ความพอดี ชีวิตถึงมีความสุข
อย่าคิดมาก คิดแค่พอดี อย่าตีตนไปก่อนไข้

สิ่งใดที่ยังไม่เกิด ก็อย่าไปร้อนรน อย่าไปทุกร้อน อย่าไปกังวล ถึงเวลาปัญหาอาจ
จะแก้ได้ด้วยตัวมันเอง ปล่อยวาง คิดแค่กลางๆ เดินสายกลาง ลองทำทุกอย่างแบบ
กลางๆ ชอบแบบกลางๆ เหมือนกับ ความรัก เผื่อไว้ คือเผื่อไว้ อาจจะสมหวังหรือ
อาจจะผิดหวังก็ได้ ถึงวันนึงอาจจะผิดหวัง มันอาจจะไม่ต้องเจ็บปวดมากมาย

ลองซิ ลองทำทุกอย่างแบบกลางๆ เดินสายกลาง กินแต่พอดี พออิ่ม ก็คงไม่อ้วน
แต่คงว่าไม่ได้ เพราะคนเราไม่เหมือนกัน อย่างผมซิกินเอาๆ แต่ทำไมไม่อ้วน
ทั้งๆที่อยากอ้วน อยากทำน้ำหนักให้ได้อีกซัก 10 กิโล แต่มันก็ยังไม่ถึงซักที
แต่คนที่ไม่อยากอ้วนกลับ ขึ้นเอาๆ แต่คนเรา ไม่ได้ขึ้นอยู่กับปัจจัย รูปลักษณ์

ภายนอกเสมอไป ใกล้จะ 6 โมงเย็น แสงตะวันไกล้จะลาลับขอบฟ้า
หลายคน มีชีวิตที่ทุกข์ร้อน เดือดเนื้อร้อนใจอยู่ตลอดเวลา ด้วยความไม่พอดี ขาด
การใช้ชีวิตแบบสายกลาง ร่ำรวย แล้วก็ยังไม่เคยพอ สะกดคำว่าความพอดีไม่เป็น
ความพอเพียง คงจะพอเพียงได้ ถ้าหากมีอยู่บ้างแล้ว

แต่คนที่จนตรอก คนจนๆ จะสะกดคำว่า พอเพียงได้อย่างไร แต่บางคนก็อยู่ได้กับ
ชีวิตที่พอดี พอเพียง ใช้จ่ายเท่าที่มี มันก็คงพอเพียงได้ ถ้าเป็นชีวิตในชนบท
ชีวิตในต่างจังหวัด เพราะไม่ต้องใช้จ่ายอะไรมากมาย บางวันแทบไม่ต้องใช้เงิน
หากว่าไม่ได้ออกไปใหน อย่างมากก็แค่ซื้อกับขงกับข้าว

น้ำไม่ต้องซื้อ บ้านไม่ต้องเช่า ข้าวก็ยังไม่ต้องซื้อ แถมอยู่บ้านพร้อมหน้าพร้อมตา
แต่ใช่ว่าชีวิตคนเราจะเหมือนกัน ทุกคนต่างก็ต้องดิ้นรนเพื่อตัวเองหรือเพื่อครอบ
ครัว เพื่อคนที่ตัวเองรัก ก็ไม่แปลกคนเราทุกคน ต่างก็อยากได้อยากมีกันทุกคน
ใครบ้างไม่อยากรวย ใครบ้างไม่อยากมี ใครบ้างละไม่อยากสบาย

แต่บางทีอาจจะเหนื่อย กับชีวิตที่ไม่พอดี ชีวิตที่ขาดเส้นทางสายกลาง ถ้าเหนื่อย
ก็ลองหันมาทางสายกลางบ้างก็ได้ อาจจะค่อยเป็นค่อยไป ค่อยๆปรับตัวไป
ชีวิตที่วุ่นวาย อาจจะทุเลาลงบ้าง ลองมาเดินสายกลางแล้ว ชีวิตอาจจะมีความ
สุขมากขึ้นเป็นได้

หกโมงเย็นกว่าๆ ลองคิดดูนะ ถ้าเรารู้จักรักใคร แบบพอดี ใช้ชีวิตแบบพอดี ใช้
ชีวิตแบบสบาย ไม่ต้องเครียดมาก ปล่อยวางบ้าง หนทางแห่งความของชีวิตก็
คงอยู่ไม่ไกล ขอบคุณนะครับ ที่อดทนอ่านจนมาถึงตรงนี้ สู้ๆ เหมือนเดิมนะครับ

นิทาน ชีวิตและความสุข

ในโลกนิทานคิดอะไรจะทำอะไร ก็ทำได้ดั่งใจ ไม่เหมือนในโลกแห่งความจริง
ที่บางครั้งก็ได้แต่คิดเพราะว่า การที่จะทำอะไรซักอย่างให้เป็นชิ้นเป็น มันช่างยาก
เย็นแสนเข็ญเหลือเกิน ถ้าคุณอยู่ในโลกนิทาน ถ้าคุณได้พร 3 ข้อ คุณจะขออะไร
ถ้าคุณได้ พรให้คุณสามารถเลือกเป็นตัวละครตัวใหนก็ได้ในนิทาน

คุณอยากจะเป็นตัวอะไร ถ้าเป็นตัวผม ผมจะเลือกอย่างแรกจะเลือก เป็นโดเรม่อน
ลองคิดดูซิ เวลาโนบิตะมีปัญมาทีไร โดเรม่อน มักจะหยิบของบางอย่างจากกระเป๋า
มาให้โนบิตะเสมอ ถ้าผมเป็นโดเรม่อน ผมน่าจะหยิบเงินออกมาซักก้อน 2ก้อน
เอาไปจ่ายเล่น โอ้ไร้สาระเสียจริงเนอะ

พูดอะไรก็ไม่รู้ช่างเป็นไม่ได้เอาเสียเลย แต่ก็แค่เรื่องสมมุตินะ มันไม่ใช่เรื่องจริงซัก
หน่อย แล้วพรข้อสองจะเลือกเป็นอะไรดี น่าจะเป็น น่าจะเป็นยักษ์ในตะเกียงวิเศษ
แล้วกะจินนี่ มันใช่ตัวเดียวกันเหรอเปล่า น่าจะเสกเอาความเหงา ของตัวเองออก
ไปซะ เสกเนื้อคู่ เสกรถ เสกบ้าน เสกให้หมด แต่มะใช่หนุ่มเสกนะ

นิทานก็ยังเป็นนิทานนะ แล้วพรข้อที่ 3 จะเป็นตัวอะไรดี น่าจะเป็น สไปเดอร์แมน
จะได้ป่ายปีนไปหาคนที่รัก ที่ระเบียง แล้วก็บอกรักก่อนนอน อยากเป็น ซุปเปอร์แมน
จะได้เหาะ ไปใหนมาใหนไดดั่งใจ อยากเป็นไอ้มดแดงไปต่อสู้กับเหล่าร้าย
(สงสัยเราท่าจะบ้าไปแล้ว เหอๆๆ) มันก็แค่ในนิทาน มันก็เป็นแค่เรื่องสมมุติ
แต่อาจจะมีเรื่องจริงแต่ก็คงน้อยเอามากๆ..........................

************************************************

วันนี้อากาศร้อนเอามากๆ สงสัยคงจะหมดหน้าฝนแล้วมั้งครับ แล้วลมก้อไม่ค่อยพัดเอา
เสียเลย บ่ายสามกว่าๆ ตอนนี้ไฟดับ นี่ฝนยังไม่ตก ไฟก็ยังดับ ที่แปลกมาก ฝนตกไฟ
จะดับ แต่บางครั้งบางคราว ไม่ค่อยบ่อยเท่าใหร่

อยู่บ้านพี่สาวเนี่ยเย็นสบาย ห่างออกไปประมาณ 300 เมตรคงจะได้ ต้นไม้รอบบ้าน
โล่ง โปร่งสบาย นอนเล่นเย็นสบาย หลับปุ๋ยๆ ส่วนที่บ้านผม มันสองชั้น บ้านพี่สาว
หนึ่งชั้นครึ่ง ที่บ้านผม ชั้นล้างอากาศสบายๆ แต่ชั้นสอง ตอนเที่ยงๆ อากาศมันร้อน
นี่ยังไม่มีแอร์นะ ค่าไฟมันปาไป 1500 1600 แต่คิดว่าน่าจะมีหลายคน

ที่ค่าไฟน่าจะเยอะกว่าผมอีก ยิ่งถ้าเป็นร้านเน็ต ร้านคอม ร้านเกมส์ ค่าไฟ 4000 ขึ้น
ไปน้อยกว่านั้นคงยาก ยิ่งถ้าเป็นร้านที่เปิดแอร์ยิ่งไม่ต้องพูดถึง เหยียบหมื่นเลยนะคุณ
เฉพาะค่าไฟก็ปาไปเกือบหมื่น ก็ไม่แน่ใจว่าจะกำไรซักเท่าใหร่ ยิ่งถ้าเป็นร้านในตัวเมือง
หัวเมืองหน่อย ร้านมันเยอะ จนเหลือแค่ชมละ 10 บาท สองชั่วโมง 18 บาท

แล้วอย่างนี้ไม่รุ้ว่าจะคุ้มเหรอไม่ อย่างกะให้เล่นฟรี ทางที่ดี ใครทีอยากจะเปิดร้านเน็ต
น่าจะไปเปิดแถวชานเมือง หรือต่างอำเภอ ห่างหัวเมืองไปหน่อย ไม่ก็ไปเปิด ที่เป็นแหล่ง
ท่องเที่ยว ระยอง พัทยา ที่คนต่างชาติเยอะหน่อย ชมเน็ตมันขึ้นไป หลายเท่าเลยนะคุณ
คุ้มสุดคุ้มจิงๆ

วันนี้เบื่อมาก ไม่ได้ออกไปใหน เบื่อไปหมด ที่นี่มีแต่ทะเล เบื่อแล้วทะเล เห็นบ่อยจนเบื่อ
แต่ก็ไปเที่ยวเล่นได้เพราะลมมันพัดแรงเย็นสบาย น่าจะหาแปล สักอันไปผูกนอนเล่นที่ใต้
ต้นหูกวางต้นนั้นจริงๆ มันมีอยู่แห่งหนึ่ง มีต้นหูกวางติดกับชายหาด ร่มรืนเย็นสบาย ถ้าเอา
เปลไปผูก หาขนมนมเนยไปกินเล่นฟังเพลง เบา หรืออาจจะมีโน๊ตซักตัว เล่นเน็ต

คุยกับเพื่อน อ่านเมล อ่านอะไรไปเรื่อย น่าจะมีความสุขนะคุณว่าใหม ตอน 15.49 น.
ไฟยังไม่ติดอีก ตอนนี้เราลงไปนอนเล่นข้างล่าง แล้วก็มาเปิดคอมเอาตอนประมาณ
16.25 เพราะว่าไฟเพิ่งติด ไฟฟ้าที่นี่เหมือนผีเข้าผีออก คิดจะดับก็ดับ ตอนนี้เวลาประมาณ
18.12 ตั้งนาฬิกาไม่แน่ใจว่าตรงหรือไม่ แต่คงต่างกันไม่เกิน 5 นาที มั้ง

ได้เพลง เก่าๆมา ฟังแล้วมันรื่นหู สบายใจดี Within You' ll Remain. ของ Tokyo Square
เพลงยุคเก่า ไม่ใช่ว่าฟังแล้วจะเชยหรอกนะคุณ แต่เพลงไฟเราะๆ น่าฟัง ๆ ผมก็ได้ทั้งหมด
เพลงแดนซ์ เพลงเกาหลี ญี่ปุ่น จีน ไทย อังกฤษ ฮิปฮ๊อป ป๊อบร็อค ทุกแนวได้หมด
ก็เพราะผม ไม่ชอบปิดกั้นตัวเอง เลยทำให้ผม เป็นคนเปิดใจทุกเรื่อง

คุณก็เหมือนกันนะ เพลงที่คิดว่าไม่ชอบ ก็ไม่ฟัง บางทีฟังแล้วก็อาจจะชอบ แต่คิดว่า
ไม่ชอบเลยไม่ฟังมัน ตกลงแล้วทุกอย่างถ้าคุณเปิดใจ อะไรๆ ทีคิดว่าไม่ใช่ ไม่ชอบ
มันก็อาจจะชอบหรืออาจจะใช่ตัวคุณก็เป็นได้ บ่นแค่นี้แหละวันนี้อ่ะ ปล. สุ้ๆนะคุณ

เขียนโดย : นายขี้บ่น
วันที่ 15 : ธันวาคม 2552
เวลา : 18.20 น.