19 พ.ค. 2553

หยุดเสียที................



สถานการณ์บ้านเมือง ณ ตอนนี้ กำลังทวีความรุนแรงขึ้นทุกที พลพรรคเสื้อหลากสี
เริ่มเงียบ เสื้อดำเดินว่อนเต็มท้องถนน  ทหารหลายนาย เฝ้าดูเหตุการณ์อย่างระแวดระวัง
เป็นคนไทยเหมือนกัน ไม่ควรแบ่งฝักแบ่งฝ่าย เสื้อแดงเสนอเงื่อนไขปรองดอง
 ก่อนรัฐบาลจะสลายการชุมนุม ตอนนี้เริ่มปวดหัว มีหลายฝ่ายเหลือเกิน
เสื้อแดงเสื้อดำ เสื้อเหลือง ชมพู น้ำเงิน เสื้อหลากสี  ตอนนี้ เสื้อแดงไม่ค่อยจะมีใครใส่แล้ว
ในที่นี้ น่าจะมีคนหลายสีกำลังอ่านอยู่ แต่ถ้าจะถามผมว่าผมจะอยู่สีไหน ผมเลือกข้างไหน
ข้างไหนก็ได้ทีทำให้บ้านเมืองสงบสุขไม่รบราฆ่าฟันกัน เหมือนอย่างทุกวันนี้  เลิกการชุมนุม
ทหารก็ถอยกลับที่ตั้ง ต่างคนต่างถอย

กลับบ้านไปทำมาหากิน ต่างคนต่างอยู่กัน ประชาธิปไตย ต่างคนต่างอ้างประชาธิปไตย
คุณกำลังต่อสู้เพื่อเรียกร้องประชาธิปไตย  ประชุมด้วยความสันติ ทุกวันนี้มันไม่ได้สันติ อย่าง
ที่แกนนำ เขาประกาศไว้ตั้งแต่เริ่มต้น มันลุกลามบานปลายไปอย่างมากมาย เกินที่จะควบคุมได้
 ผมเข้าใจว่าอาจจะมีใครบางคนคับแค้นใจ ที่เพื่อน ที่น้อง

หรืออาจจะเป็นญาติ คนในครอบครัว ได้เสียชีวิตจากเหตุการ ปะทะกันระหว่าง ทหารกับคนเสื้อดำ
คนเสื้อแดง หรือผู้ที่มาชุมนุม จึงนำไปสู่การต่อต้านรัฐบาล เหมือนอย่างทุกวันนี้.............
เอะผมเขียนอย่างนี้ใครจะจับผมหรือเปล่า มันเป็นเสรี ทางความคิด ผมมีสิทธิที่จะแสดงความคิด
เห็น ผมแค่ไม่อยากให้คนไทยต้องเข่นฆ่ากันก็เท่านั้น ตั้งแต่เกิดมา จนถึง ณ ตอนนี้เพิ่งจะเคยเห็น
ที่คนไทยต้องทำร้ายกันเอง มันช่างน่าเศร้าใจอย่างที่สุด

ผมไม่รู้คุณมาชุมนุม มาด้วยจุดประสงค์ใด อาจจะมาเรียกร้องประชมธิปไตยอย่างที่คุณบอก
หรืออาจจะมีใครอยู่เบื้องหลังการชุมนุมหรือเปล่าผมก็ไม่รู้ แต่ผมก็ได้ข่าวมาเช่นนั้น
คุณรู้หรือไม่ถ้าคุณกำลังทำเพื่อคนนึงที่ตอนนี้อยู่ที่ไหนก็ม่รู้ คุณรู้หรือไม่ มีคนถ่ายรูปได้ เขา
กำลังเดินช๊อปปิ้งอยู่ที่ฝรั่งเศส(ถ้าจำไม่ผิด) ด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม

ในขณะที่พวกท่านต่อสู้ เพื่อนเขาคนนั้น นอนกลางดินกินกลางทราย ลูกหลานทางบ้านเป็นห่วง
บางท่านก็มากันทั้งครอบครัว สงสารลูกเถอะครับ โรงเรียนเปิดแล้ว  สู้กลับบ้านไปทำมาหากิน
ที่บ้านอย่างมีความสุขพร้อมหน้าพร้อมกันฉันครอบครัวกันจะดีกว่า สถานการณ์เช่นนี้ ไม่ปลอด
ภัยกับใคร ผมเชื่อว่าลูกเด็กเล็กแดง ไม่อยากจะอยู่ที่นี่นักหรอก

เขาอยากไปโรงเรียน อยากเจอเพื่อน อยากเล่น ไม่ได้อยากมาอยู่ท่ามกลางสภาวะแวดล้อมเช่นนี้
ผมดูข่าว เด็กคนนึง พูดจาฉะฉาน "จะเอาประชาธิปไตยกลับคืนมา" ผมรู้สึกแปลกใจ
แค่เด็กคนนึง ถูกหล่อหลอมด้วยสภาวะแวดล้อมที่เต็มไปด้วย ความโกรธแค้น ความก้าวร้าว
หรือคำพูด ที่เด็กไม่สมควรจะได้ยิน ไม่เหมาะสม จากแกนนำ หรือบุคคลๆใดก็ตาม

คุณไม่ควรพาเด็กมาเกี่ยวข้องด้วย  คุณไม่ควรจะเอา  ผู้หญิง เด็ก คนชรา มาเป็นเกราะโล่กำบัง
เด็กเปรียบเสมือน ผ้าผืนสีขาวๆ เปรียบได้กับสมองที่ว่างเปล่า ไร้เดียงสา ถ้าเกิดเอาเลือด เอาโคลน
มาป้าย ผ้าสีขาวผืนนั้นจะสกปรก เป็นแดง สีดำ เปรียบได้กับ นำความโกรธแค้น ความก้าวร้าว
ความคิดที่ไม่ดี มาให้เด็ก ถ้าเป็นเช่นนี้ เด็กเติบโตไป มีนิสัยไปทางที่ไม่ดี คุณก็อย่าไปว่าเขาก็แล้ว
กันในเมื่อคุณนำพาเขามายังสิ่งแวดล้อมเช่นนี้เอง.............

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น