8 ก.พ. 2553

ขอเป็นพี่ชายที่เสียสละ



เวลาที่รู้สึกปวดหัว เซ็งกับชีวิต ชีวิตที่ไม่ได้ดั่งใจ ความรักที่ไม่ได้ดังหวัง หลายสิ่งหลายอย่าง
ที่ไม่ได้เป็นไปอย่างที่คิด มันทำให้รู้ว่าอยากจะหยุดอยู่กับตัวเองซักพัก อยากยุติ ชีวิตออน
ไลน์ พอไปซักช่วง โลกไซเบอร์ โลกออนไลน์ โลกส่วนตัวของใครหลายๆคน เคยรู้สึกเบื่อๆ
กับชีวิตบ้างหรือเปล่า


บางทีผมรู้สึกเบื่อๆ กับโลกใบนี้เสียจิง มันน่าเบื่อไปหมด เบื่อสิ่งรอบตัว เบื่อกับชีวิตเดิมๆ
ที่เป็น เบื่อความงี่เง่าของตัวเอง เบื่อไปหมด หลายคนน่าจะเป็นแบบผม ผมอยากจะพูด
ถึง เรื่องของหญิงสาวกับชายหนุ่มคู่นึง ที่มีคำว่าพี่ชายมาค้ำคอ มีความแตกต่าง
มาเป็นสิ่งขวางกั้น ความสมหวัง.. ความเสียสละ ท้อถอย ท้อใจ หลีกทาง อ่านดูนะครับ....

ในจังหวัดสุราษธานี...มีเด็กผู้หญิงคนนึงชื่อนุ่น ตัวเล็กๆ อายุ 7 ปี กับเด็กผู้ชายคนนึงชื่อน้อย
อายุ 8 ปี เด็กทั้งสองคนเป็นคนสุราษฯ เหมือนกัน บ้านอยู่ในละแวกเดียวกัน
พ่อแม่เขาเป็นเพื่อนกัน แต่ฐานะทางบ้านของนุ่นค่อนข้างดี เป็นคนมีฐานะ แต่บ้านช่อง
ของน้อยเล็กนิดเดียว ยังไม่ได้ซักครึ่งของบ้านนุ่นเลย

พ่อแม่ของนุ่นไม่ได้ว่าอะไรน้อย ไมได้รังเกียจน้อย ปล่อยให้น้อยเล่นกับนุ่นตั้งแต่เด็ก...
จนเวลาหลายปีผ่านไปจน นุ่นจบ ม.6 และสอบเข้าได้ที่มหาวิทยาลัยมีชื่อแห่งหนึ่งในกทม
ส่วนตัวน้อย ทางบ้านฐานะยากจน ถึงแม้ว่าน้อยอยากจะเรียนต่อเหมือนกับ นุ่น
พ่อแม่บอกกับน้อยเสมอว่า ทางบ้านไม่มีเงินจะส่งให้น้อยเรียน

น้อยก็ได้แต่ทำใจยอมรับ แล้วก็ออกหางานทำ ส่วนนุ่นก็ไปเรียนต่อในกทม แต่ทั้งสองคน
ก็ยังติดต่อกัน น้อยได้งานทำละแวกใกล้บ้าน น้อยได้งานทำเป็นคนขับรถส่งของที่บริษัทแห่ง
หนึ่ง ซึ่งบ่อยครั้งน้อยขับรถผ่านหน้า มหาวิทยาลัยที่นุ่นเรียน เพราะน้อยต้องขับรถส่งของ
ส่งให้ดีลเลอร์ทั่วทั้งภาคกลาง ซึ่งจะผ่านหน้า มหาวิทยาลัยของนุ่นอยุ่บ่อยครั้ง

วันนึงนุ่นโทรไปหา น้อย ถามน้อยไปว่า จะผ่านมากทมอีกเมื่อใหร่ ซึ่งน้อยก้อบอกไปว่า
วันเสาร์ ตอนบ่ายๆจะไปส่งของให้กับห้างแห่งหนึ่งในกทม นุ่นเลยบอก
"วันนี้วันศุกร์ งั้นวันเสาร์พรุ่งนี้ พี่น้อยไปทานอาหารเที่ยงกับนุ่นนะ"
นุ่นบอกกับน้อย ให้น้อยแวะทานอาหารเที่ยงด้วยกันซะที่กทม
"เดี๋ยวนุ่นจะเป็นคนพาไปทานเอง"
"ได้ซิ" น้อยตอบ

จนถึงวันเสาร์ น้อยต้องไปส่งของแต่เช้าให้กับห้างแห่งนึงในกทม น้อยไปถึงกทม
เกือบจะเที่ยง พร้อมเอาของลงที่ห้าง สรรพสินค้า
เสร็จก็ไปเกือบบ่ายโมงเลยโทรไปหานุ่น บอกไปว่าตอนนี้อยู่หน้าห้างสรรพสินค้า
นุ่นเลยบอกเดี๋ยวจะไปหา จะพาไปทานอาหารด้วยกัน

น้อยจอดรถทิ้งไว้หลังห้างสรรพสินค้า ให้เด็กยกของลง แล้วน้อยก็ขอตัวออกมา
นั่งคอยนุ่นหน้าห้างสรรพสินค้าจนครู่ใหญ่น้อยได้ยินเสียงบีบแตรมาแต่ไกล
น้อยหันไปดู ก็เห็นนุ่นกวักมือเรียกรถเก๋งคันงามแวะเข้ามาจอดด้านหน้าที่น้อยนั่ง
มันเป็นรถที่พ่อแม่นุ่นซื้อให้เป็นรางวัลตอนสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้

นุ่นพาเพื่อนมาด้วย สองคน แล้วนุ่นก็ลงมาแล้วจูงมือน้อยขึ้นรถ ออกไปยังร้านอาหารแห่ง
หนึ่งซึ่งอยู่ละแวกเดียวกัน น้อยมองดูนุ่น ตั้งแต่เข้ามาเรียนในกทม นุ่นสวยเหลือเกิน
นุ่นเปลี่ยนไปมาก นุ่นสวยมาก น้อยเพิ่งจะมีโอกาสได้เจอนุ่นอย่างจิงๆจังๆ ก็คราวนี้
นุ่นสวยเหลือเกินผิวพรรณดูสะอาด สะอ้านไปหมด

น้อยก้มหน้ามองตัวเองมันช่างแตกต่างกันเหลือเกิน ราวฟ้ากับดิน น้อยบ่นกับตัวเอง
นี่เราคงได้แค่ฝัน เราคงได้แค่ฝันเท่านั้น เราคงต้องถอยดีกว่าใหม ถึงแม้เราจะรักนุ่น
มากแค่ไหน เรามันก็แค่หมาวัด ที่มองดูเครื่องบิน ครู่นึงนุ่นขับมาถึงร้านอาหารแห่งหนึ่ง
นุ่นขับรถไปจอดหน้าร้านอาหาร แล้วก็ลงไปสั่งอาหารกินกัน เป็นร้านหรูในกลางเมือง

น้อยแต่งตัวซอมซ่อ ไม่ได้ใส่เสื้อผ้าแบรนด์เนม ที่คนมีตังค์เขาใส่กัน อย่างเขาก็คงได้แค่
ตัว 199มันช่างแตกต่างกันเหลือเกิน น้อยบ่นกับตัวเอง ที่นี่ไม่ใช่ที่เราควรจะอยู่ ชีวิตเขา
กับนุ่น ช่างแตกต่างกันเสียจิง ยังไม่ทันที่จะสั่งอาหารมาทาน เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น
มีคนโทรหาน้อย ลูกน้องมาบอกว่าลงของเสร็จแล้ว
"ลูกพี่ ลงของเสร็จแล้วครับ"
"เออๆ เดี๋ยวกูกลับไป "
น้อยเลยขอตัวนุ่นกลับไปก่อน
"ลูกน้องพี่รออยู่ มันลงของเสร็จแล้ว พี่ขอตัวดีกว่านะนุ่น เดี๋ยวพวกมันจะหิว"
นุ่นยังไม่ทันได้พูดอะไร น้อยก็เดินออกไป พร้อมกับโลก ตุ๊กๆคันนึงแล้วก็ขึ้นรถ
นั่งออกไป ........................................................

ที่บ้านน้อย หลังจาก ที่น้อยไปส่งของทีห้างสรรพสินค้าในกทม ก็เลยขับรถกลับบ้านมาถึงบ้าน
ก็เกือบจะ ห้าโมงเย็น น้อยนอนอยู่บนแคร่หน้าบ้าน ใต้ต้นมะม่วง ต้นนึง น้อยคิดหนัก รู้สึก
ได้ถึงความแตกต่างระหว่างเขากับ นุ่น
" กริ๊งๆๆกริ๊งงงงงงง " เสียงโทรศัพท์ ดังขึ้น "
"น้อยเอ้ย นุ่นมันโทรมา" ป้าโสภีแม่ของน้อยตะโกนมาแต่ไกล

น้อยลุกขึ้นไปรับโทรศัพ นุ่นถามว่าทำไมตอนเที่ยงถึงรีบกลับไปซะก่อนยังไมได้ทานอะไรเลย
โกรธอะไรนุ่นเหรอเปล่า น้อยตอบไป ว่าไม่ได้โกรธ นุ่นเลย
"พี่ต้องรีบกลับเพราะว่าลูกน้องพี่ลงของเสร็จแล้ว เดี๋ยวมันจะคอย มันจะหิวกัน " น้อยตอบไปอย่างนั้น
ตอบไปอีกอย่าง ทั้งที่ใจอยากจะบอกกับนุ่นไปว่าเขารักนุ่นเหลือเกิน เขาไม่อยากรั้ง ไม่อยากดึง
นุ่นให้มาตกต่ำเหมือนกับเขา

"งั้นพี่ พักผ่อนนะ เดี๋ยวนุ่นจะอ่านหนังสือหน่อย" นุ่นวางหู เพราะต้องรีบอ่านหนังสือเตรียมจะสอบ
ในภาคเรียนสุดท้าย ปีนี้เป็นปีสุดท้ายนุ่นก็จะจบแล้ว

เวลาผ่านไปหลายเดือน ....
"กริ๊งงงง กริ๊งงๆๆๆ"
"ฮัลโหล ต้องการจะพูดกับใครจ๊ะ" แม่ของน้อยรับโทรศัพท์
"ป้าโสภีบอกพี่น้อยด้วยนะ ว่าไปงานวันรับปริญญานุ่นด้วยนะ ป้าบอกด้วยนะว่าต้องมาให้ได้"
"จ๊าาาจะบอกให้จ๊าาาา"
ป้าโสภีวางหูโทรศัพท์ พร้อมกับน้อยขับรถมามาจอดหน้าบ้าน น้อยเพิ่งไปส่งของมา
"น้อยเอ๊ย นุ่นมันบอกให้ไปงานวันรับปริญญาของมันด้วย "
"จ่ะแม่เห็นป้ายหน้า มหาวิทยาลัยแล้วจ่ะแม่" น้อยตอบด้วยสีหน้า เศร้าสร้อย ไม่สู้ดีนัก

จนวันถึงวันรับปริญญาของนุ่น พ่อแม่ ญาติ พี่น้องของนุ่นมาให้กำลังใจกันเต็มไปหมด
นุ่นคอยน้อย จนครู่ใหญ่อาจารย์ป่าวประกาศให้เข้าไปเตรียมรับปริญญาบัตร เพราะใกล้
เวลาเข้ามาแล้ว แต่นุ่นไม่ยังไม่รู้เลย ว่าน้อยกำลังมองเขาอยู่อีก ฝั่งหนึ่ง จนนุ่น
เข้าไปในหอประชุม สถานที่จะรับปริญญาบัตร

"อ้าวน้อย มาด้วยเหรอ"พ่อของนุ่นหันไปเห็นน้อยกำลังเดินมาเลยทักไป
"หวัดดีครับ มากันนานแล้วหรอครับ ผมฝากจดหมาย ให้ นุ่นด้วยนะครับ"
ยังไม่ทันได้คุยอะไรมากมาย น้อยก็เดินออกไป
จน 11 โมงใกล้จะเที่ยง นุ่นเดินออกมาจากหอประชุมพร้อมกับปริญญาบัตรที่รอคอยมา 4 ปี
"นุ่น น้อยให้จดหมายมาด้วยนะลูก มันมาแป๊บเดียวแล้วก้อเดินออกไป ไม่ได้คุยอะไร
กับมันเท่าใหร่เลยลูก ไม่รู้จะรีบไปใหนของมัน"

นุ่นรับจดหมายมาแล้วเดินออกไป นั่งที่โต๊ะหินอ่อนใกล้ๆกัน พร้อมกับเปิดจดหมายมาอ่าน
ข้อความในจดหมายเขียนไว้ว่า

" นุ่นพี่ขอโทษด้วยนะ ที่พี่ไม่ได้มาอวยพร ไม่ได้มาเป็นกำลังใจให้นุ่นด้วยตัวพี่เอง ตั้งแต่เล็ก
จนโตพี่ทำหน้าที่พี่ชาย ที่ดีสำหรับนุ่นมาเสมอ จะเป็นอะไรไปถ้าตอนนี้พี่จะเป็นพี่ชายของนุ่น
ต่อไป ถึงตอนนี้พี่อาจจะรู้สึกดีๆกับนุ่น พี่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่า นุ่นจะรู้สึกอย่างไรกับพี่ แต่ที่พี่รู้คือ
ชีวิต ของนุ่นกับพี่มันช่างแตกต่างกันเหลือเกิน มันคงเป็นไม่ได้ที่ ฟ้ากับดินจะมาบรรจบกัน

มันคงถึงเวลาเสียที ที่พี่ควรจะเลือกทางเดินสำหรับตัวพี่เอง พี่ขอให้ชีวิตของนุ่นมีแต่ความสุข
ได้พบกับคนที่เหมาะสมกับนุ่น ที่ไม่ใช่คนที่เป็นดินอย่างพี่ ขอให้น้องของพี่มีความสุขนะครับ
พี่ลาก่อน"

นุ่นอ่านเสร็จก็ รีบเดิน ขับรถออกไป มองซ้ายและขวา กวาดสายตามองหาน้อยตลอดทาง
แต่ก็ไม่เจอแม้แต่เงา นุ่นเลยตัดสินใจขับรถไปยังบ้านของน้อย

------------ ที่บ้านของน้อย --------------
น้อยเก็บเสื้อผ้า ใส่กระเป๋า ใบนึงพร้อมบอกกับแม่
"แม่ผมจะไปทำงานต่างจังหวัดนะครับ"
"แล้วงานส่งของที่บริษัทละลูก"
"ผมลาออกแล้วครับ ผมจะไปพังงานะแม่ ผมมีเพื่อนอยู่ที่นั่นแล้วผมจะโทรมานะแม่ "
"เอ้าน้อย แล้วจะไปพักไปอยู่ที่ใหนละลูก"
"ผมไปพักบ้านเพื่อนครับแม่"
แล้วน้อยก็เดินออกจากบ้านไปโดยให้ลูกน้อง ที่บริษัทเพิ่งที่ลาออกมาไปส่งที่ สถานีขนส่ง ซึ่งห่างออกไป
10 กิโลเมตร รถเคลื่อนตัวออกไป ออกไป ออกไปเรื่อยๆ

ครู่ต่อมา...........
เอี๊ยดๆๆๆๆ เสียงเบรคดังมาแต่ไกล
โสพีเดินออกมาดู เหมือนได้ยินรถใครเข้ามาจอดที่นหน้าบ้าน
"ป้าโสภี ป้าโสภี.... ป้าโสภีคะ"
"จ๊าาาๆมาแล้วจ๊าาา อ้าวนุ่น มีอะไรเหรอลูก"
"ป้าโสพี พี่น้อยอยู่ใหมคะ"
"น้อยเหรอ อ้าวน้อยยังไม่บอกเหรอว่าจะไปพังงา"
"ไปพังงา ไปทำไมคะป้า"
"มันบอกว่า จะไปหางานทำที่โน่น"
"วันนี้จะไปขึ้นรถที่ขนส่ง ไปดูซิ ป้าไม่แน่ใจนะว่ารถออกแล้วยัง มันออกไปก่อนหน้าหนู มาที่นี่10 นาทีได้นะ"
"ขอบคุณค่ะป้า งั้นหนูไปก่อนนะคะ"
แล้วนุ่นก้อขับรถไปยังสถานีขนส่ง....

ครู่นึง จึงขับรถมาถึงสถานีขนส่ง นุ่นจอดรถ เดินหาน้อย ไปทั่ว กวาดสายตา
มองไปรอบตัวก็ไม่เห็นน้อยแม้แต่วี่แวว น้อยไมรู้เลย ว่านุ่นกำลังตามหา ตอนนี้ น้อยคงคิดว่านุ่นคงอยู่
เลี้ยงฉลองอยู่ที่ใหนซักแห่งในกทม เขาขอจากลานุ่นมาดีกว่า แต่ไม่เคยคิดเลยว่านุ่น จะกลับมาตามหาเขา
แต่นุ่นมาช้าไปเสียแล้ว รถทัวร์ขับออกไป น้อยนั่งอยู่ในรถคันนั้น รถเคลื่อนออกไป

ไกลออกไป ไกลออกไป จนสุดท้าย นุ่นก้อไม่ได้เจอกับน้อย สุดท้าย เส้นทางระหว่าง
นุ่นกับน้อยก็เป็นไปได้แค่ใหนความฝัน เช่นเดียวกับฟ้าและดิน ที่ขนานกัน ไม่มีทางจะบรรจบพบกันได้
เหมือนกับชีวิต ของนุ่น คนที่มีความเพรียบพร้อม ทั้งฐานะ การศึกษา การใช้ชีวิต ที่ต่างกับน้อย
ที่เหมือนก้อนดินเสื่อมๆ ที่ไม่มีค่าราคาใดๆ ที่จะไปเคียงคู่กับกล้วย ที่สวยงาม

เรื่องเศร้าๆๆ ของชีวิต คิดว่าน่าจะมีใครซักคนที่เป็นอย่างนี้บ้างเนอะ ไว้ขยันๆ จะเขียนมาให้อ่านใหม่นะครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น